Movie : Google the world brain หนังสารคดีที่เล่าเรื่องโปรเจคเหมือนฝันของกูเกิ้ลที่จะทำการสแกนหนังสือทุกเล่มบนโลกใบนี้ เพื่ออัพโหลดขึ้นเว็บไซต์และให้คนเข้าไปอ่าน หรือง่ายๆคือกูเกิ้ลกำลังทำโปรเจคห้องสมุดของโลกนั่นเอง แต่ติดปัญหาอยู่นิดเดียวเอง คือ เรื่องของ “ลิขสิทธิ์”
Gayby Baby รักคือความเข้าใจ หนังสารคดีว่าด้วยเรื่องราวของเด็กในครอบครัวLGBT สี่ครอบครัว ความรู้สึกและความคิดของพวกเขาในการอยู่และมีครอบครัว พ่อแม่เป็นLGBT ซึ่งเรื่องราวของทั้งสี่ครอบครัวนั้นน่ารักมาก ทุกครอบครัวมีเป้าหมาย มีการหาคำตอบในแบบของตัวเอง กับการมีอยู่ การเป็นส่วนหนึ่ง และการยอมรับครอบครัวของตัวเอง (จริงๆทุกคนยอมรับได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องปรับตัวต่อการยอมรับของบุคคลภายนอกที่มองเข้ามา) เด็กๆทั้งสี่คนน่ารักมากกกกกก
ก่อนเราจะได้ดูหนังเรื่องนี้ Amy Winehouse เป็นนักร้องเสียงดีขี้เมา ติดยา เสเพล ชอบปาร์ตี้ในสายตาของเรา ที่รับรู้ผ่านสื่อต่างๆ หลังจากดูหนังเรื่องนี้เธอเป็นนักร้องเสียงดี ที่”บังเอิญ”ติดเหล้า ติดยา และอยู่ผิดที่ไปหน่อย แต่ที่เรารู้สึกได้คือ Amy Winehouse เธอเกิดมาเพื่อให้โลกจำจริงๆ โลกจะจดจำผลงานเพลงของเธอ ไม่ก็ชื่อเสียงพฤติกรรมสำมะเลเทเมาของเธอที่เป็นชื่อกระฉ่อนลือชาเหลือเกิน แต่โลกนี้จะต้องจำได้ว่า Amy Winehouse เคยมีชีวิตอยู่…และยังมีชีวิตอยู่ผ่านเพลงของเธอ ทำไมนะเหรอ…ก็เพราะเพลงของAmy Winehouse ก็คือชีวิตของAmy Winehouse!!!
ภาพยนตร์สารคดี ว่าด้วยเรื่องราวการทำความรู้จักกับช่างภาพลึกลับ Vivian Maier ผ่านผลงานของเธอ หนังเล่าเรื่องตามช่วงเวลาต่างในชีวิตเธอ โดยใช้ภาพถ่ายผลงานของเธอผสมไปกับคำบอกเล่าของคนที่รู้จักเธอในช่วงนั้นๆ หนังไม่น่าเบื่อนะ เล่าเรื่องหลายมุมและลำดับเวลาก็ไม่งง ได้ดูภาพสวยๆ ได้รุ้จักคนคนนึง ถือว่าคุ้มอยู่นะกับค่าตั๋วเรื่องนี้ ถ้าเป็นคนชอบดูรูปถ่าย ได้ไปดูหลายๆผลงานของเธอในหนังก็คุ้มอย่นะ ถ้าเป็นคอหนังก็พอดูได้ไม่น่าเบื่อนะ อาจจะไม่มีดราม่าพีคอะไร แต่ชีวิตของเธอเองก็มีมิติและลึกมากที่จะทำให้น่าสนใจด้วยเช่นกัน เรื่องทั้งหมดเริ่มจากการที่ลังฟิล์มของเธอถูกประมูลได้ และเมื่อดูภาพเหล่านั้นผู้ประมูลได้ก็ได้พบกับงานระดับเทพ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ซึ่งทั้งหมดได้จุดความสงสัยให้แก่เค้าว่าทำไมงานพวกนี้ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนเลย ดังนั้นเค้าจึงเริ่มค้นหาเธอ และพบว่าเธอเพิ่งเสียชีวิตไป แต่มีเช่าที่เก็บของเอาไว้ ดังนั้นเค้าจึงเริ่มค้นหาเรื่องราวในช่วงชีวิตของเธอ ผ่านทั้งภาพถ่ายผลงานของเธอและคนรอบตัวเธอที่รู้จักเธอในแต่ละช่วงเวลา
หนังสารคดีที่ได้ไปดูตามแรงเชียร์และเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากเพจรีวิวหนังที่ติดตามอยู่ ซึ่งรอบที่ไปดูคือรอบสุดท้ายก่อการขยายเวลายืนโรงเพิ่มไปอีก ซึ่งก็สมควรมาก เพราะรอบนั้นคือเก้าอี้เต็มทุกที่นั่ง ปู่สมบูรณ์เป็นหนังที่ถ่ายทอดชีวิตจริงของปู่สมบูรณ์และย่าละเมียด คู่สามีภรรยาชาวเมืองอยุธยา เป็นเรื่องราวการดูแลกันและกันของปู่และย่า หนักไปทางปู่ดูแลย่า เพราะย่ามีหลายโรครุมเร้ามากมายจริงๆ ย่าละเมียดเป็นโรคไต ที่ต้องฟอกไตทุกๆสี่ชั่วโมง และปู่สมบูรณ์คือคนที่ทำหน้าที่นั้น จดน้ำเข้าออก เตรียมการฟอกไตทุกสี่ชม. พาไปอาบน้ำ ป้อนข้าว พาเข้านอน คือหนังทำให้เราเห็นง่ายๆ เลยว่าชีวิตคู่บางทีก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าการดูแลกัน ในยามสุขและทุกข์ ไม่ต้องบอกรักโรแมนติกมากมาย เพราะทุกการกระทำของปู่สมบูรณ์แสดงให้เห็นมากกว่าคำพูดมากมาย
ได้มีโอกาสไปดูภาพยนตร์สารคดี ในเทศกาลภาพยนตร์เพื่อสังคมมาเรื่องนึง ชื่อเรื่องว่า Urbanized เป็นสารคดีที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองในแง่มุมต่างๆทั่วโลก ที่จับเอาประเด็นมาเชื่อโยงต่อๆกัน ได้อย่างน่าสนใจในแง่มุมของการกระจายตัว หรือแนวคิดหลากหลายอย่าง หนังเกริ่นด้วยหลักการพื้นฐานของการพัฒนาและขยายตัวของเมือง คือจะต้องวางแผนจัดการอย่างรัดกุม เพื่อรองรับการเติบโตและการเข้ามาอยู่ในเมืองของประชากรที่จะมีเพิ่มขึ้นๆ วางแผนเพื่อให้คุณภาพการอยู่อาศัยดีขึ้นและลดปัญหารื่องคุณภาพการอยู่อาศัยของผู้อยู่อาศัยเดิม โดยเริ่มเล่าเรื่องจากเมืองมุมไบ เมืองที่จะกลายเป็นเมืองที่หนาแน่นที่สุดในโลกในอนาคต แต่เมืองขาดการวางแผนจัดการที่ดี ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนพัฒนาเมือง ทำเป็นลืมพวกเขาไปและปล่อยให้อยู่กับสลัมกันอย่างแออัด แนวคิดแปลกๆอย่างการจำกัดสุขาภิบาล โดยจากการศึกษาพบว่า1ห้องน้ำควรรองรับสัก50คนหรือ10ครัวเรือน แต่ที่มุมไบรองรับไปถึง600คน ซึ่งลดมาจาก900คนต่อห้องน้ำแล้ว โดยภาครัฐมีแนวคิดที่จะจำกัดการย้ายเข้าสู่ตัวเมืองโดยการจำกัดห้องน้ำ! อาสาสมัครจึงกัดไปเบาๆว่าอย่างกับคนจะย้ายเข้ามาเพื่อเข้าห้องน้ำงั้นล่ะ เป็นการแสดงให้เห็นกลายๆว่าเป้นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุดเลย ในขณะที่ประเทศชิลี ได้มีหน่วยงาน(?)ที่ลุกขึ้นมาจัดการเรื่องนี้ ทำการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างบ้านเอื้ออาทร โดยใช้การออกแบบเข้ามาช่วยจัดการภายใต้งบประมาณที่จำกัด และจัดทำไม่ใช่แค่การฟังเสียงหรือทำตามนโยบายนักการเมือง แต่เป็นการคิดถึงชุมชนที่อยู่อาศัยจริงๆ ผู้ออกแบบเข้าใจดีว่าความเป็นชุมชนไม่สามารถมีแค่ที่อยู่อาศัยได้ แต่ต้องประกอบไปด้วยหน่วยย่อยอื่นๆของสังคมอีก หัวใจสำคัญคือเรื่องทำเลที่ตั้ง ฉะนั้นงบประมาณจึงถูกแบ่งมาสำหรับที่ดิน และงานระบบ เหลือจึงเป็นค่าก่อสร้างบ้าน โดยผู้ออกแบบใส่ใจชุมชน และรับฟัง เปิดกว้างให้แก่ผู้อยู่อาศัย โดยจัดาร้างแบบครึ่งเดียว มีเฉพาะสิ่งที่จำเป็นให้ ที่เหลือเป็นไอเดียและความฝันของผู้อยู่อาศัยที่จะตกแต่งกันต่อไปตามแต่ละคน อ่างอาบน้ำหรือที่ทำน้ำร้อน? ถามนักการเมืองนักเคลื่อนไหว ก็เลือกเครื่องทำน้ำอุ่นกัน แต่กับชาวบ้านผู้ยากไร้ที่ไม่เคยมีพื้นที่ส่วนตัวเลย พวกเขาจะต้องการอะไรมากไปกว่าอ่างอาบน้ำล่ะ พสกเขาจะต้องการเครื่องทำน้ำร้อนไปทำไม ในเมื่อส่วนใหญ่แทบจะไม่มีเงินค่าแก้สมาจุดเคื่องทำน้ำร้อนด้วยซ้ำ จากแนวคิดของการพัฒนาพื้นที่ โดยมีทุกอย่างอยู่ในชุมชน ไล่ไปสู่แนวความคิดของการพัฒนาเมืองโดยแยกส่วนต่างๆออกจากกัน ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาเมืองบราซิเลีย ในบราซิล ที่ทุกอย่างถูกวางผังออกแบบอย่างสวยงาม …
หนังเรื่องที่สามของเทศกาลหนังยุโรปคราวนี้ หนังจากเนเธอร์แลนด์ เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวในสลัมแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ที่หันเห(?)ไปสู่การเป็นโสเภณีเด็กและเหตุการณ์ต่างๆก็พากันเกิดขึ้น จนไปถึงจุดจบที่เศร้าใจ หนังเล่าเรื่องของเด็กหญิงคนนึงนามว่าลิเลต ที่มีชะตาชีวิตอย่างซวยตามพล็อตละครไทยเรื่องพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงเลยเพียงแต่ลิเลตไม่โชคดีเท่านางเอกละครไทยเท่านั้น เพราะลิเลตถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนและนอกจากนั้นแม่ของลิเลตเองก็พยายามจะขายลูกกินให้ไปนอนกับผู้ชายแก่ๆ ซึ่ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอแก่การผลักให้ลิเลตต้องหนีออกไปอยู่บนถนน(แถมแม่ไม่ตามหาด้วย เอ้อ!) จนถูกจับ และได้มิชชั่นนารีมาช่วยเหลือประกันตัวออกมา กลับไปบ้านและลิเลตก็มาแอบๆอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเยาวชน แต่…….!!!
Big Boy Goes Banana! เป็นภาพยนตร์สารคดีว่าด้วยเรื่องของผู้กำกับชาวสวีเดนที่ไปเหยียบเท้าบริษัทผลไม้ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างDole เป็นหนังที่ถ่ายทำเพื่อบอกเล่าเรื่องราวระหว่างผู้กำกับคนนี้ถูกยักษ์ใหญ่ไล่บี้ เนื่องจากผู้กำกับคนนี้ทำหนังสารคดีว่าด้วยการทำฟาร์มกล้วยในอเมริกาใต้ของบริษัทDole ว่ามีการใช้สารเคมีบลาๆ ซึ่งคดีนี้ก็ถูกฟ้องและถูกศาลตัดสินไปแล้วว่าDoleผิดจริง แต่Doleกำลังอุทธรณ์อยู่ ผู้กำกับสวีเดนก็ทำหนังขึ้นมาชื่อเรื่อง Banana และกำลังจะนำไปฉาย แต่ทางDole ก็รู้เห็นว่าจะมีการฉายหนัง ซึ่งทางDoleกล่าวอ้างว่าเป็นข้อมูลเท็จทำให้บริษัทเสียหาย อย่ากระนั้นเลยDoleก็จัดการส่งหมายเตือนไปเลยว่าห้าฉายนะ ไม่งั้นฟ้องตูดบานนะ บีบผู้จัดเทศกาลหนังว่าถ้าเอ็งฉายก็จะโดนฟ้องด้วยนะ บลาๆ บีบหนักมาก ช่วงแรกของหนังเรื่องนี้ได้แต่สงสารเลยว่าผู้กำกับและหนังเจ้าปัญหาโดนหนักมากจริงๆ จนสุดท้ายก็พยายามจนฉายได้ แม้จะโดนDoleเปิดเกมเร็วด้วยการใช้สื่อโจมตีผู้กำกับก่อนในหลายๆแง่ และก็เกิดกระบวนการฟ้องร้องกันตามมานี่แหละ ทางDoleไล่บี้หนักจริงๆ ไม่ว่าใครก็ตามที่เอ่ยถึงหนังเรื่องนี้ หรือสัมภาษณ์ผู้กำกับคนนี้ แม้จะเป็นรายเล็กย่อย ทีวีท้องถิ่นก็ตาม Doleจัดการติดต่อไปหมดเลย หูตาทิพย์มากๆ จนกระทั่งทางผู้กำกับก็ลุกขึ้นมาฟ้องDoleกลับด้วยเช่นกัน