Month: January 2015

ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ของปู่สมบูรณ์

หนังสารคดีที่ได้ไปดูตามแรงเชียร์และเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากเพจรีวิวหนังที่ติดตามอยู่ ซึ่งรอบที่ไปดูคือรอบสุดท้ายก่อการขยายเวลายืนโรงเพิ่มไปอีก ซึ่งก็สมควรมาก เพราะรอบนั้นคือเก้าอี้เต็มทุกที่นั่ง ปู่สมบูรณ์เป็นหนังที่ถ่ายทอดชีวิตจริงของปู่สมบูรณ์และย่าละเมียด คู่สามีภรรยาชาวเมืองอยุธยา เป็นเรื่องราวการดูแลกันและกันของปู่และย่า หนักไปทางปู่ดูแลย่า เพราะย่ามีหลายโรครุมเร้ามากมายจริงๆ ย่าละเมียดเป็นโรคไต ที่ต้องฟอกไตทุกๆสี่ชั่วโมง และปู่สมบูรณ์คือคนที่ทำหน้าที่นั้น จดน้ำเข้าออก เตรียมการฟอกไตทุกสี่ชม. พาไปอาบน้ำ ป้อนข้าว พาเข้านอน คือหนังทำให้เราเห็นง่ายๆ เลยว่าชีวิตคู่บางทีก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าการดูแลกัน ในยามสุขและทุกข์ ไม่ต้องบอกรักโรแมนติกมากมาย เพราะทุกการกระทำของปู่สมบูรณ์แสดงให้เห็นมากกว่าคำพูดมากมาย

Urbanized “มากกว่าการอยู่อาศัย คือการเป็นส่วนหนึ่ง”

ได้มีโอกาสไปดูภาพยนตร์สารคดี ในเทศกาลภาพยนตร์เพื่อสังคมมาเรื่องนึง ชื่อเรื่องว่า Urbanized เป็นสารคดีที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองในแง่มุมต่างๆทั่วโลก ที่จับเอาประเด็นมาเชื่อโยงต่อๆกัน ได้อย่างน่าสนใจในแง่มุมของการกระจายตัว หรือแนวคิดหลากหลายอย่าง หนังเกริ่นด้วยหลักการพื้นฐานของการพัฒนาและขยายตัวของเมือง คือจะต้องวางแผนจัดการอย่างรัดกุม เพื่อรองรับการเติบโตและการเข้ามาอยู่ในเมืองของประชากรที่จะมีเพิ่มขึ้นๆ วางแผนเพื่อให้คุณภาพการอยู่อาศัยดีขึ้นและลดปัญหารื่องคุณภาพการอยู่อาศัยของผู้อยู่อาศัยเดิม โดยเริ่มเล่าเรื่องจากเมืองมุมไบ เมืองที่จะกลายเป็นเมืองที่หนาแน่นที่สุดในโลกในอนาคต แต่เมืองขาดการวางแผนจัดการที่ดี ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนพัฒนาเมือง ทำเป็นลืมพวกเขาไปและปล่อยให้อยู่กับสลัมกันอย่างแออัด แนวคิดแปลกๆอย่างการจำกัดสุขาภิบาล โดยจากการศึกษาพบว่า1ห้องน้ำควรรองรับสัก50คนหรือ10ครัวเรือน แต่ที่มุมไบรองรับไปถึง600คน ซึ่งลดมาจาก900คนต่อห้องน้ำแล้ว โดยภาครัฐมีแนวคิดที่จะจำกัดการย้ายเข้าสู่ตัวเมืองโดยการจำกัดห้องน้ำ! อาสาสมัครจึงกัดไปเบาๆว่าอย่างกับคนจะย้ายเข้ามาเพื่อเข้าห้องน้ำงั้นล่ะ เป็นการแสดงให้เห็นกลายๆว่าเป้นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุดเลย ในขณะที่ประเทศชิลี ได้มีหน่วยงาน(?)ที่ลุกขึ้นมาจัดการเรื่องนี้ ทำการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างบ้านเอื้ออาทร โดยใช้การออกแบบเข้ามาช่วยจัดการภายใต้งบประมาณที่จำกัด และจัดทำไม่ใช่แค่การฟังเสียงหรือทำตามนโยบายนักการเมือง แต่เป็นการคิดถึงชุมชนที่อยู่อาศัยจริงๆ ผู้ออกแบบเข้าใจดีว่าความเป็นชุมชนไม่สามารถมีแค่ที่อยู่อาศัยได้ แต่ต้องประกอบไปด้วยหน่วยย่อยอื่นๆของสังคมอีก หัวใจสำคัญคือเรื่องทำเลที่ตั้ง ฉะนั้นงบประมาณจึงถูกแบ่งมาสำหรับที่ดิน และงานระบบ เหลือจึงเป็นค่าก่อสร้างบ้าน โดยผู้ออกแบบใส่ใจชุมชน และรับฟัง เปิดกว้างให้แก่ผู้อยู่อาศัย โดยจัดาร้างแบบครึ่งเดียว มีเฉพาะสิ่งที่จำเป็นให้ ที่เหลือเป็นไอเดียและความฝันของผู้อยู่อาศัยที่จะตกแต่งกันต่อไปตามแต่ละคน อ่างอาบน้ำหรือที่ทำน้ำร้อน? ถามนักการเมืองนักเคลื่อนไหว ก็เลือกเครื่องทำน้ำอุ่นกัน แต่กับชาวบ้านผู้ยากไร้ที่ไม่เคยมีพื้นที่ส่วนตัวเลย พวกเขาจะต้องการอะไรมากไปกว่าอ่างอาบน้ำล่ะ พสกเขาจะต้องการเครื่องทำน้ำร้อนไปทำไม ในเมื่อส่วนใหญ่แทบจะไม่มีเงินค่าแก้สมาจุดเคื่องทำน้ำร้อนด้วยซ้ำ จากแนวคิดของการพัฒนาพื้นที่ โดยมีทุกอย่างอยู่ในชุมชน ไล่ไปสู่แนวความคิดของการพัฒนาเมืองโดยแยกส่วนต่างๆออกจากกัน ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาเมืองบราซิเลีย ในบราซิล ที่ทุกอย่างถูกวางผังออกแบบอย่างสวยงาม …

ฝันเฟื่อง ดีที่สุดที่นักแสดง

โพสว่าด้วยการอวยละครฝันเฟื่อง ละครเรื่องแรกในรอบหลายปีที่ติดและดูอย่างจริงจังตั้งใจทุกตอนเลย ทั้งๆที่ตอนเริ่มต้นนี่แค่บังเอิญเปิดผ่านมาเจอ และรู้สึกว่ารีเมคเร็วจังเลย แต่พอดูๆไปเรื่อยรู้ตัวอีกที จันทร์-อังคารนี่มานั่งรอหน้าทีวีเรียบร้อยแล้ว เวอร์ชั่นนี้มีการปรับบทให้ทันสมัยมากขึ้น และเข้ากับวัฒนธรรมปัจจุบันมากขึ้น ทั้งการติดโซเชียลเน้นแชท ตัวการ์ตูนสติ้กเกอร์ เข้าใจว่าจังหวะในเรื่องพยายามจะทำออกมาเป็นการ์ตูนและคอมเมดี้ ซึ่งก็ทำออกมาได้ตลก การ์ตูนสมความตั้งใจมากเลยนะ ยิ่งช็อตทำภาพแบบเป็นซีนในการ์ตูน ตลกมากหน้าเหวอ หน้าอึ้งได้ใจเชียว อีโมที่ใส่มาตอนแรกดูน่ารำคาญแต่ตอนนี้ดูเฉยๆล่ะ นอกจากความพยายามและแนวเรื่องที่ออกเป็นคอเมดี้ สิ่งหนึ่งี่ทำให้ฝันเฟื่องเป็นละครตลกมาก คือนักแสดง พูดเลย!! ทุกคนเล่นเข้าขากันมาก ไม่มีใครเล่นแข็งหรือขัดหูขัดตาเลย ทุกคนลื่นนนนนไหลลลลล ดูเพลินมากกก พอดูสัมภาษณ์เบื้องหลังว่าถ่ายทำอย่างสนุกมากนี่เชื่อนะ เพราะรู้สึกสัมผัสควรมครื้นเครงรื่นเริงจากเนื้องานที่ออกมาได้เลย โปรดักชั่น โปรดักชั่นนี่ก้ำกึ่งมากเลยระหว่างดีและกลางๆ เพราะฉากเปิดตัวนางเอกและพระเอก ที่เจอกันในงานเลี้ยงหรู ที่ควรจะโปรดักชั่นฉากอลังๆรวยๆ อย่างฉากเปิดโรงแรมนั้นเซทออกมาได้ง่อยมากกกกกกกกถึงมากที่สุด เข้าขั้นป่วยเลยทีเดียว ไม่สัมผัสถึงความหรูหราเลย อารมณ์เหมือนฉากในละครซิทคอมมากๆ แต่มาได้คะแนนโปรดักชั่นตีกลับขึ้นมาในฉากงานวันเกิดคุณหญิงป้า

PK หนังที่เกินคุ้มค่าตั๋ว+ค่ารถ

PK หนังที่จ่ายแพงกว่าปกติ และรวมค่ารถในการถ่อไปดูยังคุ้มเกินค่าตั๋ว PK หนังอินเดียที่กระแสบอกต่อต้องมาแรงมากๆแน่ถ้าคนได้ไปดูมา (ซึ่งเราก็ไปดูตามคำบอกต่อรีวิวมาเหมือนกัน) ซึ่งพบว่าหนังดีมากกกกกกกกก ถึงมากที่สุด แม้ว่าหนังจะเข้าจำกัดโรงแค่เมเจอร์สุขุมวิทและพระรามสาม รวมกับค่าความเฉพาะกลุ่มที่ตั๋วแพงกว่าปกติที่ 250 (ได้ราคาลดมาที่ 230) รวมกับการที่ต้องนั่งรถเพื่อไปดูก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกหรือความรู้สึกคุ้มค่าที่ได้ไปดูลดน้อยลงเลยสักนิด กลับกันกลับรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ถ่อมาดู ไม่ยอมจ่ายมาดูจะเป็นอะไรที่เสียใจมาก หนังว่าด้วยเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมาทำวิจัยที่โลกมนุษย์และถูกขโมยรีโมทส่งสัญญาณกลับบ้านไปจนได้มาเจอกับนางเอกที่ทำงานเป็นนักข่าวแล้วเรื่องของการเริ่มต้นตามเอารีโมทคืนก็เริ่มขึ้นพร้อมกับการตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อ เรื่องราวความวุ่นวายของพระเอกเกิดจากโจรที่ขโมยรีโมท ที่เป็นสร้อยวิบวับไปและเอาไปขายให้แก่นักบวข? ที่เป็นผู้นำลัทธิซึ่งเอาไปหลอกลวงชาวบ้านต่อว่าเป้นของศักดิ์สิทธิ์ โดยการเริ่มต้นตามหารีโมทของพระเอกเริ่มขึ้นพร้อมกับความรักของนางเอกชาวอินเดียและหนุ่มปากีสถาน (ที่ความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ ความเชื่อ ศาสนาพุ่งสูงเลยทีเดียว)และนางเอกถูกคำทำนาย(ของนักบวชที่เอาสร้อยพระเอกไป)มาสั่นคลอนความรักกับแฟนหนุ่ม นี่คือสองเส้นเรื่องของหนังเรื่องนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายทั้งหมด หนังเล่าเรื่องของพระเอกที่ต้องการตามหารีโมทในนิวเดลฮี เมืองใหญ่คนระดับสิบล้าน ด้วยความว่างเปล่า ใครเอาไป คนนั้นคือใคร อยู่ที่ไหน เรียกได้ว่ายิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเลยทีเดียว และทุกคนที่พระเอกไปพบก็ต่างบอกพระเอกว่าต้องไปให้พระเจ้าช่วยแล้วแหละ ซึ่งทำให้พระเอกเริ่มออกตามหาพระเจ้า แต่ปัญหาคือ พระเอกต้องตามหาพระเจ้าองค์ไหนล่ะ?