เรื่องนี้มีคนแนะนำมาให้ลองอ่านดู เป็นหนังสือที่ว่าด้วยประวัติศาสตร์การต่อสู้กับเชื้อโรคของมนุษย์ (ก็แหงสิ ชื่อก็บอกอยู่แล้วนี่นา) แต่ก็จะย้ำอีกทีนั่นละ ชื่อหนังสือเหมือนจะเป็นเรื่องหนักๆเครียดๆ อ่านยาก แต่ความจริงแล้วเปล่าเลย นักเขียนย่อยสรุปๆ มาเป็นบทสั้นๆ เอามาเรียงต่อๆกันให้อ่านง่ายๆ อ่านแล้วย่อยสะดวกมาก เป็นหนังสือที่ให้ความรู้ที่อ่านแล้วไม่น่าเบื่อเลย คนเขียนเก่งจริงๆ หนังสือเล่าถึงประวัติศาสตร์การแพทย์ เริ่มมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ไล่มาเรื่อยๆ จนถึงการแผนสมัยใหม่ วิวัฒนาการ ความคิดอ่านในการรักษาโรคเป็นอย่างไร ระหว่างนั้นหมอๆ เค้ามีการค้นคว้าหาคำตอบอะไรหลายๆอย่างยังไง และมันมาบรรจบลงเอย กลายเป็นวิวัฒนาการทางการแพทย์ยังไง พอคนเขียนเอาเรียงร้อยต่อกันตามช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์หลายๆอย่างขึ้น มันก็ทำให้หลายๆเรื่องในวงการการแพทย์ก็เหมือนการต่อจุดที่ สตีฟ จ๊อบส์เคยบอกนั่นละ และบางทีกว่าจะต่อกันเจอก็ใช้เวลา ถ้าต่อกันไม่เจอ เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันสำคัญยังไง นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ใครหลายๆคนบอกว่าความรู้ในหนังสือไม่สำคัญเท่าการเอามาประยุกต์ใช้ก็เป็นได้ สรุปความน่าอ่าน จริงๆเล่มนี้อ่านจบมาสักพักละ เพราะอ่านง่าย สนุก แปปเดียวอ่านจบละ แต่เพิ่งจะมามีเวลาเขียนถึงนี่เอง ยังไงก็ต้องขอบคุณคนแนะนำ ณ ที่นี้ด้วยงับ #กองดองเธอนั้นอ่านมันเถอะนะ #จบไปอีกเล่ม
Crusader Kings2 เป็นเกมแนววางแผนครอบครัว (ใช่ซะที่ไหนเล่า) เกมแนวGrand Strategy เกี่ยวกับการวางแผนสร้างตระกูลของเราให้เกรียงไกรขึ้นมาในยุคอดีต เราจะเริ่มจากการเป็นขุนนางตัวเล็กๆ หรือเป็นกษัตริย์ของอาณาจักร ที่ต้องการขยายอาณาเขตออกไปก็ได้ เราเลือกเล่นได้ว่าจะขยายอำนาจด้วยการปั๊มทหารไปฟัดกับอาณาจักรอื่น หรือจะส่งลูกหลานเราไปเกี่ยวดองหาพันธมิตร แล้วก็อาศัยจังหวะเคลมเอาก็ได้ เกมจะให้เราเล่นเป็นตัวละครแล้วเราจะต้องจัดการบริหารความสัมพันธ์ของตัวละครนั้นกับตัวละครอื่นๆ โดยจะมีเหตุการณ์ต่างๆป็อปอัพขึ้นมาให้เราตัดสินใจ ซึ่งจะส่งผลกับเราต่อไปเช่นกัน เช่นมีผลต่อค่าความสัมพันธ์ มีผลต่อแสตตของตัวละครของเรา มีผลต่อนิสัยบางอย่างของเรา และอีกมากมายหลายหลาก เน้นหลักๆคงเป็นเกมการทูตและการจัดการความสัมพันธ์ เป็นอีกเกมดูดวิญญาณเช่นเดียวกัน วุ่นวายเสียเวลาเป็นชั่วโมงนี่แหละกับการหาคู่แต่งงานให้ลูกเรา และไหนจะต้องเลี้ยงลูกให้ออกมามีคุณสมบัติและลักษณะนิสัยที่สวยงามอีก เพื่อให้มาเป็นความหวังของครอบครัว มนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของเกมนี้คือ เมื่อเราหวังที่จะปั้นลูกคนใดคนนึงให้ออกมามีคุณสมบัติที่สวยงาม มีนิสัยที่คนนิยมชมชอบ ลูกเรามันจะต้องป่วยตายให้หัวร้อนเสมอ ทิ้งเรากับอาณาจักรที่เราเพียรสร้างไว้กับลูกคนรองที่ไม่ได้เรื่อง และก็ไม่ยอมตายซะที แถมยังต้องวางแผนกำจัดทายาทที่มีสิทธิเคลมบัลลังก์ของเราอีก อะไรจะวุ่นวายขนาดนี้ละเนี่ย ภาพสวยงามอยู่ตามท้องเรื่อง มีรายละเอียดและการใส่ใจทำ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด (เพราะความใส่ใจทั้งหมดนนั้นถูกสอยย่อยออกมาขายอีก…แต่ไม่ได้ซื้อ เล่นแค่ความใส่ใจแบบเบสิกไปก่อน) เป็นเกมที่เน้นตัวอักษรเพียวๆๆเป็นหลัก อ่านเยอะมาก ต้องอ่านทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าคาดหวังการสู้รบบู๊กระจายออาจจะผิดหวัง บู๊สุดก็แค่ตอนยกทัพไปตี ก็กดลากกองทหารไปมา ความน่าเล่น สนุกมากกกก แต่ก็เปลืองเงินมากเช่นกันเพราะภาคเสริมออกมายาวเป็นห่างว่าวเลย กว่าจะไล่เก็บครบหมดก็หมดตัวพอดี ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องซื้อตัวไหนบ้าง เพราะตอนซื้อเกมนี้ครั้งแรกก็กวาดมาหมดทุกตัวเสริม ไม่เคยเล่นแบบขาดตัวเสริมบางตัวไป เลยไม่รู้จริงๆว่ามันต่างกนอย่างไร แต่เป็นเกมที่ซื้อมาเล่นแล้วไม่เสียดายเงินเลย แค่อาจจะหัวร้อนเป็นบางช่วง ตอนลูกคนโปรดเสียชีวิต(อีกแล้ว) …
เกมอินดี้แนวเอาตัวรอด ด้วยการเก็บของมาคราฟเป็นสิ่งต่างๆ ซึ่งเป้าหมายของเกมมีเพียงอย่างเดียว คือเอาตัวรอดให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เริ่มเกมมา เราจะพบตัวเองฟื้นอยู่ในดินแดนไหนสักแห่ง และเราจะต้องหาวิธีเอาตัวรอดจากความหิวและความมืดมิดในคืนแรกไปให้ได้ อาจจะด้วยการเก็บเบอร์รี่ เก็บกิ่งไม้ หญ้าแห้ง ก้อนหินอะไรก็ตามแต่ที่มีอยู่ในเกม มาทำอุปกรณ์เอาตัวรอด ความยากของเกมนี้ อยู่ที่การวางแผนและจัดลำดับสำคัญ รวมถึงดวงด้วยนิดหน่อย เพราะทุกๆวันที่ผ่านไป นอกจากเราจะเอาชีวิตรอดไปวันๆแล้ว เรายังต้องวางแผนอนาคตด้วย! จะมาอยู่ด้วยการเก็บเบอร์รี่ไปวันๆไม่ได้ เพราะทุกๆวันที่กำลังจะมาถึง เราอาจจะโดนฝูงหมาโจมตี หรือเข้าสู่ฤดูหนาว แค่ทำให้ตัวเองไม่แข็งตายก็ลำบากลำบนแล้ว ไหนจะต้องออกไปหาอาหารตามทางอีกเรื่อยไป ไม่ง่ายเลยทีเดียว เป็นเกมที่ของทุกอย่าง ศัตรูทุกตัวมีความหมาย แมงมุมข้างๆบ้าน ชอบวิ่งมาทำร้ายเราบ้าง แต่เราก็ต้องการใยแมงมุมมาสร้างสิ่งของเช่นกัน การไล่ฆ่าทั้งหมดก็อาจจะไม่ใช่ไอเดียที่ดีมากนัก ต้องวางแผนเยอะว่าวันนึงจะต้องทำอะไรบ้าง เพิ่งจะหัดเล่มาได้สักพัก ความคืบหน้าล่าสุดก็เอาตัวรอดพ้นฤดูหนาวได้และโดนมอนส์เตอร์ตบตายเอาซะงั้น (ซึ่งจริงๆก็แค่เกือบสี่สิบวันเท่านั้นเอง) แต่เพราะความที่เกมนั้นเปิดกว้างให้เราทำได้หลากหลายรูปแบบมากๆ ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่าเราควรจะต้องเล่นอย่างไร มันทำให้เกมนี้สามารถดูดเวลาเราไปได้แบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว อารมณ์แบบเงยหน้ามาอีกที อ้าวเห้ย เย็นแล้ว แล้วนี่ยังเก็บของสร้างแคมป์ไม่เสร็จเลย ภาพและความสวยงาม มีเอกลักษณ์ดี เป็นเกม 2D ให้ตัวละครเดินไปเดินมาบนฉาก ภาพจะออกแนวสีทึมไหนาย แต่เราชอบ บรรยากาศภาพ งานอาร์ตมันเข้ากับเกมดี คืองานออกมาไม่น่าเกลียดเลย ความน่าเล่น จัดอยู่ในหมวดเกมดูดวิญญาณ ถ้าไม่ว่างจริงๆ …
Movie : Google the world brain หนังสารคดีที่เล่าเรื่องโปรเจคเหมือนฝันของกูเกิ้ลที่จะทำการสแกนหนังสือทุกเล่มบนโลกใบนี้ เพื่ออัพโหลดขึ้นเว็บไซต์และให้คนเข้าไปอ่าน หรือง่ายๆคือกูเกิ้ลกำลังทำโปรเจคห้องสมุดของโลกนั่นเอง แต่ติดปัญหาอยู่นิดเดียวเอง คือ เรื่องของ “ลิขสิทธิ์”
Orwell เป็นเกมที่จะให้เราสวมบทบาทเป็นนักสืบที่อยู่นอกประเทศ ชื่อ The Nation ที่จะต้องสืบคดีระเบิดกลางเมือง โดยทำงานผ่านระบบ Orwell ระบบติดตามชีวิตประชาชน ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างบนอินเตอร์เนต โทรศัพท์ อีเมลล์ คอมพิวเตอร์ ของประชาชนที่เราสงสัยได้ เป็นเกมที่เล่นแล้วเพลินมาก แต่อย่าคาดหวังกับกราฟฟิคขั้นเทพ แอคชั่นกระจุยกระจาย เพราะเกมนี้ดำเนินการโดยเน้นเนื้อเรื่องเป็นหลัก ไดอะล็อก ข้อความ บทสนทนาที่ต้องอ่านจะเยอะมากกกก คือทุกอย่างเป็นตัวอักษร เน้นการอ่านเป็นหลัก ซึ่งความสนุกมันอยู่ที่ เราอ่านและเราต้องตัดสินใจจากข้อมูลทีเราเห็นตรงหน้าเท่านั้น เพื่อสืบหาข้อมูลใหม่ไปเรื่อยๆอีก ขนาดว่าถ้าอัพโหลดว่าชอบตกปลา ยังมีเว็บนักตกปลามาให้ไปอ่านเลย โดยเกมจะให้เราเข้าไปค้นข้อมูลทุกอย่าง และอัพโหลดทุกอย่างเข้าไปในระบบ ซึ่งทุกข้อมูลที่เราอัพโหลดเข้าไปจะมีผลต่อผู้ต้องสงสัยคนนั้นๆทันที เช่นที่อยู่ ลักษณะนิสัย ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่เราในการเลือกที่จะอัพโหลดข้อมูลเข้าไปในระบบ เราสามารถทำให้คนนึงดูเป็นคนดุร้ายป่าเถื่อน โดยเลือกอัพโหลดข้อมูลด้านโหดร้ายที่คนนั้นโพสเพราะอารมณ์โกรธเกรี้ยวเข้าไปก็ได้ หรือจะเลือกอัพโหลด ด้านสงบเรียบร้อยก็ได้ เพื่อหาตัวคนร้ายผู้ก่อเหตุวางระเบิดกลางเมืองสองครั้ง และสืบหาระเบิดครั้งที่สามที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งทุกอย่างจะนำมาสู่บทสรุปสุดท้ายที่จะให้เราเลือก ว่าเราจะจัดการยังไงกับระบบนี้ สปอยล์ตั้งแต่ตรงนี้เป็นต้นไป . . . .
มีโอกาสได้ไปดูละคอนถาปัดอีกครั้งหลังจาก ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้เชอร์ล็อกเมื่อปี 57 นิดหน่อยด้วย ที่ทำให้เราได้ความรู้สึกเหนือคาดมาก ไม่รู้สึกเฟลกับละคอนถาปัดมาก หลังจากโดนมู่หลานย่ำยีขยี้เละเทะ (ของปี58 ไม่เห็นรู้เรื่องเลย…ก็ข้ามไปละกัน) ปีนี้เราก็ไปดู(เช่นเคย ถ้ารู้เรื่องและมีโอกาส) อย่างแรกเราประทับใจเทคโนโลยีของน้องๆมาก ตอนนี้สามารถซื้อบัตรทางเล็บได้แล้ว!!! สุดยอด สบายดีกว่าการต้องไปนั่งซื้อตามสยามเยอะมาก จ่ายเงินก็ง่าย สะดวกสบาย (แม้การรับบัตรจะมึนๆงงๆไปบ้าง แต่เป้นเรื่องเล็กน้อยมาก) คิดว่าถ้าโปรโมทดีๆ กับเด็กน้อย หรือกลุ่มคนดูละครเวที (สายดูไปเรื่อยเปื่อย ไม่เน้นฟอร์มยักษ์อย่างเดียว) น่าจะขายได้ง่ายขึ้นนะ ปีนี้น้องๆเอานิยายชั้นครูอย่างทวิภพมาทำ ข้อดี คือคนส่วนใหญ่รู้เรื่องอยู่แล้ว (รีเมคกันกี่รอบแล้ว พูด!) เรื่องของผู้หญิงข้ามกระจกไปพบรักในอดีต ซึ่งก็ช่วยชีวิตน้องๆในการเขียนบทไปได้มาก มีโครงมาให้แล้ว ไม่ต้องเอามาผูกเรื่องเอง ซึ่งลดความเสี่ยงที่จะผูกเรื่องไม่ดีพอ ขาดๆเกินๆ ให้คนงงๆไปได้ เพราะเด็กมือใหม่ทำละครครั้งแรก ใช่จะเป๊ะสมบูรณ์ได้เลย ความยากของบทละคอนถาปัดปีนี้ก็น่าจะอยู่ที่การตีความเติมรายละเอียดให้เนื้อเรื่อง ตัวละคร การเล่าเรื่อง (และมุกตลกด้วย) ซึ่งเราว่าไม่แย่นะ รวมๆดูสนุกเพลินมาก เพียงแต่เราว่ายังทำได้ไม่ดีพอ (อาจจะพอมีระดับการคาดหวังเล็กๆด้วย ว่าน่าจะก้าวไปได้ไกลกว่านี้) พัฒนาการอารมณ์ นิสัยตัวละคร ซึ่งก็ไม่ได้เป็นแค่ตัวละคร เพราะบางอย่างในเรื่องก็มาๆหายๆ และความต่อเนื่องก็กระโดดมาก ไม่ได้แย่นะ แค่ดูแล้วไม่เพลินมาก …
Money Monster > Me Before You > If Cats Disappear from the world ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเมื่อเราดูต่อกัน กลับกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก เราอยู่ในโลกที่หมุนด้วยเงิน หาเงินมากมาย แต่เงินมากมายแค่ไหนก็ทำได้แค่ซื้อชีวิตที่ดีให้เรา แต่ไม่ได้ทำให้เราใช้ชีวิต และถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยไม่ได้เป็นส่วนหนึ่ง และถูกลืมเลือน ก็ไม่อาจเรียกว่ามีชีวิตอยู่ได้เต็มปากนัก ใน Money Monster เราได้เห็นว่าเงินมีพลังผลักดันให้คนเราทำหลายๆสิ่ง และหลายๆสิ่งนั้นก็เกินระดับความยับยั้งชั่งใจของคนปกติไปมาก เราได้เห็นว่าระดับความยับยั้งชั่งใจในการกระทำของเรา ลดลงสวนทางกับขนาดของเงินที่มาเกี่ยวข้อง เพราะเราอยู่ในโลกที่เงินเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต…โลกที่ถ้าเราอยากมีชีวิตที่ดี เราต้องมีเงินให้มาก หาเงินให้เยอะ
Gayby Baby รักคือความเข้าใจ หนังสารคดีว่าด้วยเรื่องราวของเด็กในครอบครัวLGBT สี่ครอบครัว ความรู้สึกและความคิดของพวกเขาในการอยู่และมีครอบครัว พ่อแม่เป็นLGBT ซึ่งเรื่องราวของทั้งสี่ครอบครัวนั้นน่ารักมาก ทุกครอบครัวมีเป้าหมาย มีการหาคำตอบในแบบของตัวเอง กับการมีอยู่ การเป็นส่วนหนึ่ง และการยอมรับครอบครัวของตัวเอง (จริงๆทุกคนยอมรับได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องปรับตัวต่อการยอมรับของบุคคลภายนอกที่มองเข้ามา) เด็กๆทั้งสี่คนน่ารักมากกกกกก
Little prince เป็นอะไรที่ดูแล้วชอบมาก ชอบในวิธีการเล่าเนื่อง วิธีการเอามาโยงเรื่อง วิธีการนำเสนอเรื่องราว แอนิเมชั่นก็น่ารักน่าเอ็นดูเหลือหลาย หนังสร้างมาจากวรรณกรรมเจ้าชายน้อยที่โด่งดังไปทั่วโลก แต่เอามาขยายประเด็นและนำเสนอใหม่เพิ่มเติมจากเวอร์ชั่นหนังสืออีก ว่าเจ้าชายน้อยของเราจะเป็นยังไงถ้าโตขึ้นมา? ซึ่งจุดนี้คงต้องมีการขยายตีความเพิ่มเติม แม้เจ้าชายน้อยที่เป็นหนังสือจะออกแนวให้เราตีความเองมากกว่า แต่ก็เข้าใจได้ ว่าเพื่อโยงกับเนื้อเรื่องอีกส่วนนึง