The Great Beauty ความงามที่สุดแท้แต่…..จะยากหยั่งถึง ถ้าจะถามว่าความงามอะไรที่ยากจะหยั่งถึง ตอนนี้คงต้องตอบว่า ก็ The Great Beauty Le Grande Bellezza นี่แหละ หนังอิตาลีดีกรีภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ ที่เอากลับมาฉายอีกรอบ (และเก็บเงินด้วย!) ในเทศกาลภาพยนตร์อิตาลี ที่อ็องกั๊กติเย่ร์ ซีเนอาร์ต ถ้าจะให้บอกว่า ความงามที่อยากจะหยั่งถึงเป็นชื่อแปลของหนังเรื่องนี้ ก็คงเป็นชื่อไทยที่เหมาะมาก เพราะหนังสองชั่วโมงครึ่ง กรุเข้าไม่ถึงเลยสักนิดเดียว หนังอะไรคะเนี่ยยยยยย พี่จะสื่ออะไรให้อิชั้นดูเนี่ย
ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกตอนดูหนังเรื่องนี้ คือ เฮ้ยยยย อะไรเนี่ย มันมารวมกันได้ไงเนี่ย เออ เอาที่พี่สบายใจเลย ไปให้สุดให้เต็มที่เลยนะ อย่าได้ถอย (แล้วก็ไม่ถอยจริงๆ ตรูยอม) ….. แต่ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกหลังดูจบ คือ หนังสนุกอ้ะ อยากบอกต่อ อยากให้ดูนะ รีบมาเขียนเชียร์เช่นเดียวกัน ต้องรีบมาเขียนเชียร์เลยทีเดียว(นี่รีบแล้วจริงๆนะ) โอกาสสุดท้ายที่จะได้ดูฟรีแบบไม่ลำบากลำบนและดูฟรีด้วย!! กับเทศกาลหนังสวีเดน ฉายอีกครั้งที่เทศกาลหนังสวีเดน รอบห้าโมง วันอาทิตย์ 26 เมษ ที่CTW ถ้าไปไม่ได้…..ขอเชิญพบกับ การผจญภัยอันสุดล้ำเหนือจินตนาการ ของAllan Karlsson แห่ง Mahkoping เรื่องราวการผจญภัยของคุณตาอายุร้อยปี! ที่ปีนออกนอกหน้าต่าง และออกเดินทางจากบ้านพักคนชรา ไปครึ่งค่อนโลกจนมาถึงบาหลี อินโดนีเซีย และผองเพื่อนแห่งความบังเอิญที่พบเจอระหว่างทาง ระหว่างหลบหนีจากมาเฟีย พร้อมเงินสดเป็นล้านในกระเป๋าเดินทาง! (เอาเข้าไปสิมารวมกันได้นะ) หนังเล่าเรื่องตัดสลับระหว่างการเดินทางของแกกับเรื่องในอดีตของแกที่สุดติ่งพอๆกับการเดินทางไปจนถึงบาหลีของแกเลย ต่อไปคือสปอยล์แบบเต็มๆล้วนๆ (หรือจะไปหาหนังสือมาอ่านก็ได้นะ หนังสือเหมือนจะดังอยู่พอสมควร)
ถ้าจะให้ชื่อไทยกับหนังเรื่องนี้ก็คงจะเป็น นายตัวร้ายกับยัยผู้ช่วย ล่ะมั้ง หนังเล่าเรื่องของคุณหนูหล่อรวย Sebastian Silverberg ผู้ฝันอยากเป็นนักร้อง(โดยใช้เวลาว่างระหว่างตามฝันด้วยการเป็นพนักงานขายในร้านเสื้อผ้า!?!) และกำลังจะได้เซ็นสัญญา จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุ(แบบเอ่อ…คือมันก็อาจจะเป็นไปได้แหละนะ แต่ก็แบบเอ่อออออ) ทำให้ตาบอดมองไม่เห็นและชีวิตก็ผลิกผันไปเลย จนได้พบกับผู้ช่วยสาว(สวย?) ที่มาช่วยเหลือ ผูกพันกันจนกระทั่งพระเอกรักษาและกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง! แล้วพระเอกจะทำอย่างไร เมื่อได้เห็นหน้าผู้ช่วยที่เค้าจินตนาการถึงมาตลอด ต่อไปคือสปอยล์ล้วนๆ
หนังเรื่องที่สามของเทศกาลหนังยุโรปคราวนี้ หนังจากเนเธอร์แลนด์ เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวในสลัมแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ที่หันเห(?)ไปสู่การเป็นโสเภณีเด็กและเหตุการณ์ต่างๆก็พากันเกิดขึ้น จนไปถึงจุดจบที่เศร้าใจ หนังเล่าเรื่องของเด็กหญิงคนนึงนามว่าลิเลต ที่มีชะตาชีวิตอย่างซวยตามพล็อตละครไทยเรื่องพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงเลยเพียงแต่ลิเลตไม่โชคดีเท่านางเอกละครไทยเท่านั้น เพราะลิเลตถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนและนอกจากนั้นแม่ของลิเลตเองก็พยายามจะขายลูกกินให้ไปนอนกับผู้ชายแก่ๆ ซึ่ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอแก่การผลักให้ลิเลตต้องหนีออกไปอยู่บนถนน(แถมแม่ไม่ตามหาด้วย เอ้อ!) จนถูกจับ และได้มิชชั่นนารีมาช่วยเหลือประกันตัวออกมา กลับไปบ้านและลิเลตก็มาแอบๆอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเยาวชน แต่…….!!!
Big Boy Goes Banana! เป็นภาพยนตร์สารคดีว่าด้วยเรื่องของผู้กำกับชาวสวีเดนที่ไปเหยียบเท้าบริษัทผลไม้ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างDole เป็นหนังที่ถ่ายทำเพื่อบอกเล่าเรื่องราวระหว่างผู้กำกับคนนี้ถูกยักษ์ใหญ่ไล่บี้ เนื่องจากผู้กำกับคนนี้ทำหนังสารคดีว่าด้วยการทำฟาร์มกล้วยในอเมริกาใต้ของบริษัทDole ว่ามีการใช้สารเคมีบลาๆ ซึ่งคดีนี้ก็ถูกฟ้องและถูกศาลตัดสินไปแล้วว่าDoleผิดจริง แต่Doleกำลังอุทธรณ์อยู่ ผู้กำกับสวีเดนก็ทำหนังขึ้นมาชื่อเรื่อง Banana และกำลังจะนำไปฉาย แต่ทางDole ก็รู้เห็นว่าจะมีการฉายหนัง ซึ่งทางDoleกล่าวอ้างว่าเป็นข้อมูลเท็จทำให้บริษัทเสียหาย อย่ากระนั้นเลยDoleก็จัดการส่งหมายเตือนไปเลยว่าห้าฉายนะ ไม่งั้นฟ้องตูดบานนะ บีบผู้จัดเทศกาลหนังว่าถ้าเอ็งฉายก็จะโดนฟ้องด้วยนะ บลาๆ บีบหนักมาก ช่วงแรกของหนังเรื่องนี้ได้แต่สงสารเลยว่าผู้กำกับและหนังเจ้าปัญหาโดนหนักมากจริงๆ จนสุดท้ายก็พยายามจนฉายได้ แม้จะโดนDoleเปิดเกมเร็วด้วยการใช้สื่อโจมตีผู้กำกับก่อนในหลายๆแง่ และก็เกิดกระบวนการฟ้องร้องกันตามมานี่แหละ ทางDoleไล่บี้หนักจริงๆ ไม่ว่าใครก็ตามที่เอ่ยถึงหนังเรื่องนี้ หรือสัมภาษณ์ผู้กำกับคนนี้ แม้จะเป็นรายเล็กย่อย ทีวีท้องถิ่นก็ตาม Doleจัดการติดต่อไปหมดเลย หูตาทิพย์มากๆ จนกระทั่งทางผู้กำกับก็ลุกขึ้นมาฟ้องDoleกลับด้วยเช่นกัน
เปิดเทศกาลภาพยนตร์ยุโรป ที่ต้องใช้ความพยายามมากๆในการไปดู เฉียดๆเคอร์ฟิวท่ามกลางมรสุมการเมืองอันระอุเลยทีเดียว กับภาพยนตร์จากเบลเยี่ยม เรื่องเยี่ยมเลย come as you are หนังที่เล่าเรื่องของเพื่อนสามคนที่ต้องการเดินทางท่องยุโรป ชิมไวน์และแวะบาร์เด็ดๆ แล้วมีเรื่องราวระหว่างการเดินทาง พล็อตปกติเดิมๆอย่างที่เราเห็นกันในหนังการเดินทางตามความฝันสักอย่าง สิ่งที่ทำให้น่าสนใจไม่ใช่การขับรถหลงป่าไปเจอเรื่องประหลาด เรื่องสยองขวัญ ขับรถไปเจอคนแปลกหน้า ได้พบการผจญภัยเหนือจินตนาการ ไม่ใช่ตามฉบับหนังฮอลลีวู้ด แต่สิ่งที่ทำให้หนังน่าสนใจ!!! ที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่น่าจดจำชั่วชีวิตสำหรับสามคนนี้ คือการที่ทั้งสามคนเป็นผู้พิการ! ไม่ใช่พิการแบบเล็กน้อย แต่มาแบบเต็มที่