ต่อมาจาก Jiuzhaigou|จิ่วไจ้โกว เที่ยวยังไงดี มีอะไรให้ดู อันนี้จะว่าด้วยสถานที่เที่ยวต่างๆด้านล่าง
- ด้านล่าง (Shu Zheng Valley)
ด้านล่างนี่มีทะเลสาบให้เที่ยวเยอะพอสมควร แต่จะมีไฮไลต์ไม่เท่าด้านขวา แต่ก็เยอะกว่าด้านซ้ายอยู่ดี บางจุดสวย บางจุดเฉยๆ บางจุดสวยมาก และบางจุดเราชอบมาก
การจะไปเที่ยวทะเลสาบด้านล่างนี้ถ้าไม่มีเวลาหรือหมดแรงก็นั่งรถไปก็ได้ เพราะส่วนมากรถก็จอดหมด ไม่รู้ทำไม อาจจะเพราะอยู่ส่วนก่อนประตูทางออกมั้ง คนก็เลยขึ้นๆลงๆไปดูกันเยอะ มีแค่เล็กน้อยมาก ที่จะต้องเดินไปดูถึงจะเห็น แต่ก็ไม่ถือว่าพลาดอะไรถ้าไม่ได้เดินไปดู
สำหรับเราทะเลสาบด้านล่างนั้นก็ควรแวะตอนบ่าย-เย็นแล้วใช้เวลาเดินกับมัน ค่อยๆซึมซับไปถ้าไม่ทันก็นั่งรถออกไปได้เลย แต่ถ้าเดินย้อนออกไปตอนบ่ายเวลาหันกลับมาถ่ายรูปนั้นคือถ่ายย้อนแสงเต็มๆแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนักค่อยๆ ถ่ายไล่เก็บไปก็ได้อยู่ และถึงย้อนแสงก็ไม่ได้ทำให้มันสวยน้อยลงสักนิด
- Nuo ri lang waterfall
คือที่แรกที่เราจะเจอถัดจากจุดบริการนักท่องเที่ยวออกไป การไปที่น้ำตกนี้ สามรถไปได้ด้วยการเดิน หรือการนั่งรถไป เราเลือกนั่งรถไป คือจริงๆมันจอดเราเลยแวะลง ไม่ได้ตั้งใจจะนั่งรถไปแต่แรก ส่วนทางเดินเท่าที่ดูแนวแล้วจะเป็นการเดินในป่า แล้วค่อยข้ามถนนกลับมา
น้ำตกนี้เป็นน้ำตกขนาดกลางๆ ก็คือไม่ใหญ่ไม่เล็กละนะ ตอนที่เราไปเป็นตอนเย็น ซึ่งคนน้อยมาก แสงไม่จ้าเกินไป ถ่ายรูปอย่างสงบมีความสุขมากๆ ให้คะแนนความสงบและความสวยในระดับกลางๆ ที่ควรแก่การแวะ ถ้ามีเวลา ถ้าไม่มีเวลาก็มาแวะผ่านๆหน่อยก็ยังดี
- Rhinoceros lake Altitude 2,325m, average depth 12m, length 2km, area 200,000 m.
ทะเลสาบแรด (ชื่อก็บอกอะนะ) มาได้ด้วยการเดินหรือจะนั่งรถก็ได้ ถ้าจาก Nuo ri lang Waterfall ก็จะเดินไกลนี้ดนึง เราเลือกนั่งรถมา เพราะจะเดินต่อยาวๆไปจนถึงป้ายรถสุดท้ายเลย และก็แวะ Nuo ri lang Waterfall มาแล้วเมื่อวาน
เป็นอีกที่ที่เราชอบมาก แม้จะเดินลงไปได้ไม่สุดเท่าไหร่ด้วยขนาดที่กว้างใหญ่มาก และเพราะเราลงรถแล้วเดินย้อยริมถนนกลับขึ้นไปถ่ายรูปก็ยังทำให้ประทับใจได้อยู่ดี
เราว่าจุดนี้ควรแวะ คุ้มค่าความสวยงามมาก ไปตอนบ่ายก็ได้ แดดจะได้ไม่ลงหัวมาก แต่อาจจะมีย้อนแสงบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าเดินมาแล้วเดินไล่ถ่ายรูปลงมาก็ไม่น่าเป็นอะไร (แค่อาจจะไม่ได้ภูเขาด้านหลังเป็นฉาก)
- Tiger Lake Altitude 2,298
ถัดจากทะเลสาบแรดนี้เราก็เลือกเดินยาวๆไล่ลงไปเรื่อยๆ ทางเดินจะมีสองแบบคือเดินด้านใน กับเดินด้านนอกฝั่งริมถนน ถ้าให้เราเลือก เราจะเลือกเดินฝั่งริมถนน เพราะจะมองเข้าไปเห็นใบไม้เปลี่ยนสี แต่ถ้าเดินข้างในเราจะมองเห็นรถที่วิ่งบนถนน และใบไม้หรอมแหร็มบนภูเขา แต่ก็จะได้วิวถ่ายรูปใต้ใบไม้เหลืองๆแทน ก็แล้วแต่คนชอบละกัน อย่ากังวลไปว่าจะเดินฝั่งไหนดี เพราะมันจะมีที่ข้ามให้กลับแต่ละฝั่งอยู่เรื่อยๆ
เดินมาเรื่อยๆก็จะมาถึงทะเลสาบเสือแบบงงๆ คือเดาได้ว่าน่าจะมาถึงที่ถัดไปแล้วแหละ เพราะฝั่งตรงข้ามมีนั่งท่องเที่ยวลงรถมาถ่ายรูปกันเต็มเลย แต่ถ่ายจากฝั่งที่เราเดินออกไปก็ค่อนข้างจะไม่น่าดึงดูดเท่าอีกฝั่งละมั้งเหตุผลตามที่บอกไว้ด้านบน
ตอนนั่งรถเข้ามาก็ลองชั่งน้ำหนักดูละกันว่าจะแวะไหม วิวจากฝั่งถนนมองเข้ามาเป็นยังไง ทะเลสาบนี้ก็มีป้ายรถจอดมาได้ โดยไม่ต้องเดิน แต่ถ้าเดินไปเรื่อยๆ ยังไงก็ต้องแวะได้ถ่ายสักรูปสองรูปละนะ
- Shu zheng waterfall Altitude 2,295m, width 62m-72m, height 25
น้ำตกนี้ก็จะอยู่ถัดจากทะเลสาบเสือมา ก่อนถึงหมู่บ้านทิเบต อารมณ์ว่าอยู่ตรงกลางระหว่างทางจะข้ามกลับไปฝั่งถนน อย่างที่บอก ว่าทางเดินมันจะมีที่ให้ข้ามระหว่างด้านในและด้านถนนเรื่อยๆ ถ้าลงรถน่าจะต้องลงตรงหมู่บ้านทิเบตแล้วเดินย้อนขึ้นมาหน่อย จากที่เราเล็งมาแล้วว่าจะเดินริมฝั่งถนน ก็อาศัยข้ามน้ำตกนี้เดินไปทางถนน และแวะหมู่บ้านทิเบตเลย ถ้าจะไม่ข้ามกลับไปก็เดินต่อ
สวยไหมสวยนะ อารมณ์ถ้ามีเวลาเหลือก็แวะได้ แต่ไม่สวยถึงขนาดต้องดั้นด้นไปดูเท่าไหร่ คือถ้าเก็บมาหลายทะเลสาบหลายน้ำตกแล้ว ที่นี้ก็จะคล้ายๆที่ได้ดูมา แค่ขนาดเล็กลงมา แต่ถ้าจะเดินไปเรื่อยๆ ยังไงก็ได้ผ่านได้แวะแน่นอน
- Shu Zheng Village
หมู่บ้านทิเบตสำหรับช้อปปิ้ง ซื้อของฝากก่อนออก หรือเบื่อน้ำตก ทะเลสาบต้องการหาที่นั่งพัก ก็แวะเลย ที่นี่เป็นป้ายรถป้ายใหญ่ ไม่ต้องกลัวว่าคนขับจะเลยไม่จอด และหมู่บ้านจะอยู่อีกฝั่งของถนน คนข้ามถนนกันให้รถหยุดเพียบ
เราไม่ได้เดินเข้าไปในหมู่บ้านละเอียดนัก อยู่แต่ข้างหน้าถ่ายรูปแปปเดียวก็ไปทางธรรมชาติต่อ ไม่เน้นซื้อของเท่าไหร่ ถ้าอยากแวะ ชมวิถีชีวิต หรือของสไตล์ทิเบตจะไปเดินเล่นดูก็ได้ คิดว่ามีของกินขายแน่นอน
- Shu Zheng Lakes
เป็นทะเลสาบที่มองเห็นได้มาแต่ไกลจากป้ายรถตรงหมู่บ้านเลย ถ้าจะเดินก็ไม่ไกลนัก จะได้วิวมุมสูงไกลๆ เห็นว่ามีทางเดินลงไปต่อสำหรับข้ามกลับไปเดินด้านในด้วย แต่เราไม่ได้เดินไป เพราะจากนี้เราจะเลือกเดินเลียบริมถนนแล้ว ด้วยเหตุผลสองอย่างคือ ใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ข้างใน และมันเริ่มเย็นแล้ว ถ้าเหนื่อยก็ขึ้นรถกลับได้เลย
ถ้าเดินเข้าไปข้างในคิดว่าน่าจะได้มุมตรง สวยไปอีกแบบแต่จากมุมสูงที่เห็นมาก็สวยมากแล้ว เป็นอีกที่ที่ควรแวะ จัดอยู่ในหมวดเลอค่าและดีงาม ใบไม้สีเขียว สีเหลือง สีแดงที่ขึ้นแซมๆกัน ดูยังไงก็เพลิน ถ้าไม่มีเวลาก็แนะนำให้นั่งรถลงมาแวะป้ายหมู่บ้านทิเบตแล้วเดินมา แล้วค่อยขึ้นรถกลับก็ไม่เสียหาย
- Lying Dragon Lake Altitude 2,215m, depth 22m, area 61,000 m.
เป็นอีกที่ที่เราชอบมาก อย่างไม่มีเหตุผล อาจจะไม่ได้เป็นหนึง่ในไฮไลต์มากนัก แต่การเดินเลียบดูวิวสวยๆ มาเรื่อยๆ และมีความสงบลอยอยู่รอบๆเป็นความรื่นรมย์อย่างนึง ความสงบอาจจะได้มาเพราะเราเดินมาตอนเย็นด้วยมั้ง
บางจุดที่สงบๆ สวยๆ มาได้ด้วยการเดินนะ เพราะเราเดินมาจากหมู่บ้านแล้วบางช่วงก็จะตัดเข้าไปที่ทะเลสาบด้านใน ที่มีแต่ทางเดินล้วนๆ เหมือนจะมีป้ายรถ แต่ว่าน่าจะครอบคลุมตรงด้านท้ายของทะเลสาบแล้ว (ไม่แน่ใจ) แนะนำว่าถ้านั่งรถมาได้ให้เดินย้อนขึ้นมาถึงด้านในถึงตรงจุดที่มีป้ายชื่อทะเลสาบตั้งอยู่ มีความสงบ รื่นรมย์อย่างบอกไม่ถูก ถ้าไม่ติดว่าเย็นแล้ว อยากจะนั่งเล่นอยู่นานๆเลย ถัดจากทะเลสาบนี้ไปก็เป็นทางเดินตัดเข้าด้านในไม่ติดถนน อย่างที่เราตั้งใจไว้ไปเจอกับน้ำตกไม่มีชื่อ(หาไม่เจอ) ก่อนจะไปถึงSparkling Lake
- Sparkling Lake Altitude 2,187m, depth 9m, area 36,000 m.
เป็นทะเลสาบที่ต่อมาจากLying Dragon Lake และเป็นอีกที่ที่เราชอบเช่นกัน ความสวยงามอาจจะไม่อลังการเท่าที่อื่น แต่บอกได้ว่าไม่น้อยหน้าแน่นอน มาได้ด้วยการเดิน และอาจจะนั่งรถมาได้ (คือเราไม่เห็นรถจอดมาตั้งแต่Lying Dragon Lakeแล้ว แต่แผนที่บอกว่ามีป้ายอยู่)
ถ้านั่งรถมาลงได้ก็อยากให้แวะเดินดูรอบๆ มันสวยสงบดี และถ้ามีเวลาก็อยากให้เดินย้อนไปทาง Lying Dragon Lake ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าให้เลือกอันเดียวถ้าจะต้องเดิน เราเลือกให้เดินไป Lying Dragon Lakeนะ ชอบอันนั้นมากกว่า
- Jia Wu sacred mountain
ตรงนี้เราไม่ได้ไป เดาว่าน่าจะมีทางแยกตรงไหนสักแห่ง หรืออาจจะอยู่เส้นทางเดินด้านในคนละฝั่งกับเรา เพราะเราเดินด้านติดริมถนนตลอด เข้าใจว่าถ้าจะไปน่าจะต้องเดินอย่างเดียว เพราะรถจะไม่จอดผ่าน ไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงไหนกันแน่ ถ้ามีเวลาจะลองเดินหาดูก็ได้ ถ้าไม่มีก็น่าจะข้ามได้เลย ไม่น่าเป็นจุดไฮไลต์
- Reed Lake Altitude 2,140m, area over 100,000 m.
ทะเลสาบต้นกก! อันนี้จะเห็นได้ตั้งแต่นั่งรถขาเข้ามาแล้ว เป็นช่วงทะเลสาบที่มีต้นไม้ขึ้นเหลือให้ทะเลสาบสีฟ้าไหลเป็นทางไป ดูแล้วต้องตัดสินใจเลือกเอาว่าจะมาหรือป่าว เพราะจะมาที่นี่ได้ต้องเดินมา ให้เผื่อเวลาเดินต่อไปยังป้ายรถถัดไปด้วย แต่เราอยากให้มานะ มันสวย เราชอบ จบ!
- Bonsai shoals Altitude 2,240
ที่นี้เป็นป้ายสุดท้ายที่รถจะรับเราไปประตูทางออกใหญ่ได้แล้ว อย่าเดินเลยนะ ถ้านั่งรถมาจะแวะเที่ยวก็ให้กลับมาขึ้นป้ายนี้นะ ฉะนั้นจะเดินมาหรือนั่งรถมาก็ได้เหมือนกัน
มาแล้วจะเจออะไร ก็จะเจอทางน้ำไหลตื้นๆ (คือมันแปลว่าสันดอนอะนะ) เล็กๆ เอาไว้ดูเพลินๆระหว่างรอรถก็ได้ คือเรามาถึงตอนเย็นแล้ว แสงน้อยแล้ว แบตก็จะหมด เลยไม่รู้ว่าเวลาอื่นจะสวยกว่านี้หรือเปล่า แต่ตอนเย็นก็เรียกว่าดูเพลินๆละกัน
ควรแวะไหม คือมันเป็นป้ายสุดท้ายละนะ ถ้าเดินมายังไงก็ต้องแวะ ถ้านั่งรถมาแล้วไม่เหนื่อยมากเกินไปก็แวะลงมาถ่ายรูปเล่นก่อนออกก็ได้ ยังไงรถก็มาเหลือเฟือ แต่ถ้าเหนื่อยแล้วอยากพัก จะข้ามเลยก็ได้ ไม่รู้สึกผิดอะไร
ไปดู Jiuzhaigou On The Left | จิ่วไจ้โกว ด้านซ้าย
ไปดู Jiuzhaigou On The Right | จิ่วไจ้โกว ด้านขวา
กลับไปตั้งหลักที่ Jiuzhaigou|จิ่วไจ้โกว เที่ยวยังไงดี มีอะไรให้ดู