อย่างหนึ่งที่รู้สึกอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่มาอยู่เกาะ คือ พนักงานตามร้านต่างๆ ที่นี่ ทำงานแบบอยู่บนเส้นแบ่งของคำว่าสโลว์ไลฟ์กับเอื่อยเฉื่อยมาก เป็นบรรยากาศการให้บริการที่จะไม่มีวันพบเห็นได้ที่กรุงเทพเลย บรรยากาศที่ถามเรื่องโปรโมชั่นแล้วพนักงานมารุมล้อมเราทีสามสี่คน ไม่ใช่มารุมขายนะ มารุมช่วยกันอธิบาย (แถมแม่งไปคนละทางอีก) สรุปทั้งร้านแทบไม่มีคนรู้เรื่องโปรโมชั่นที่ส่วนกลางออกมาเลย ถามไปตอบงง ถามอีกทีตอบคนละอย่าง มานั่งคิดๆดูไม่รู้ว่าเพราะมันเป็นวิถีที่ชิวๆสบายๆ เรื่อยๆที่คนที่นี่ชิน หรือว่าเพราะการแข่งขันในการหางานมันไม่สูงก็ไม่แน่ใจ คือมันไม่ได้มีงานมากมายเหมือนในกรุงเทพ ที่นี่มีแค่งานโรงแรม ร้านอาหาร ร้านเล็กน้อย และงานขายในศูนย์การค้า ไม่นับพวกงานเฉพาะทางแบบหมอ ครูอะไรทำนองนี้นะ เพราะตลาดงานมันไม่ได้กว้างหรือป่าว คนที่ปักหลักเลยอาจจะไม่ขวนขวาย หรือทะเยอทะยาน งานบริการเลยออกมาเฉื่อยๆ คือทำแค่นี้ก็อยู๋ได้แล้ว ทำมากกว่านี้ก็อยู่แบบเดิมอยู่ดี หรือก็เปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ เพราะเจอพยักงานที่ดูงงๆในงานที่ตัวเองทำอยู่เนืองๆ (ถึงขนาดเคยต้องอธิบายเรื่องบัตรM-Gen ให้พนักงานเมเจอร์ฟังมาแล้ว) จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี ทำงานไม่มีความกดดันนะ แต่คนรับบริการกดดันมากเหมือนไปสร้างความลำบากให้พนักงานเลย ลูกค้าก็เลยสโลว์ไลฟ์ตามไปเลย…! ใครเครียดและรู้สึกกดดันจากงานที่กรุงเทพ ลองหางานบนเกาะสมุยดูนะ….
เราค่อนข้างเชื่อนะว่าการดูวิถีชีวิตคนแต่ละท้องที่ เราสามารถเช็คง่ายๆได้ในร้านหนังสือนะ เหมือนที่เค้าบอกว่าถ้าอยากดูวัฒนธรรมความคิดคนชาติไหน ให้ดูพาดหัวหนังสือพิมพ์ชาตินั้น . ขณะที่กรุงเทพ ของแพงค่าครองชีพสูง การแข่งขันสูง เมืองแห่งโอกาส(จริงๆ มาอยู่ต่างจังหวัดแปปเดียวสัมผัสได้เลย มีโอกาสจะมาต่อเรื่องนี้) มีความกดดันอยู่ลึกๆให้รวย จะได้อยู่สบายๆในเมืองที่แหลมหน้าออกนอกบ้านแบงค์ร้อยก็ปลิวว่อน หนังสือยอดฮิตแน่นอน หนังสือเสริมสร้างความร่ำรวย ชี้ช่องรวย รวยด้วยหุ้น รวยง่าย รวยเร็ว ดูดวง . พอมาอยู่เกาะ หนังสือขายดีอันดับ1-10ยกแผงกวาดทั้งชั้นคือ…..หนังสือปลูกผัก ทำเกษตร