วันแรก
ปกติแล้ว รถที่เข้าตอนเช้าๆ จะจอดให้เริ่มที่ Arrow Bamboo Lake คนส่วนใหญ่จึงลงแล้วเดินย้อนลงมาเรื่อยๆ ฉะนั้นวันแรก เราก็เริ่มเหมือนคนทั่วไป เราลงรถถ่ายรูปที่ Arrow Bamboo Lake นิดหน่อย
และก็มุ่งหน้าดิ่งตรงไปที่ Mirror lake เลย เพราะเราอ่านคำร่ำลือว่าต้องรีบไปก่อนลมจะพัดน้ำสั่นมาเยอะมาก ซึ่งจริงๆเราว่าที่น้ำมันสั่นน่ะเพราะคนเดินมากกว่าลมซะอีก หลังจากเสียเวลาไปพอสมควร ก็ไม่ได้ประทับใจดังคำร่ำลือเท่าไหร่
เราจึงตัดสินใจย้อนไปเริ่มที่ป่าดึกดำบรรพ์ละกัน เพราะอย่างที่บอกว่า รถจะจอดเฉพาะขาลงเท่านั้น ฉะนั้นการเที่ยวย้อนลงมาเรื่อยๆจะเป็นการดีกว่า พอเราไปถึงป่าดึกดำบรรพ์ เราก็เดินวนได้แปปเดียว พอไม่อินก็เลยมุ่งหน้าไปที่ถัดไปดีกว่า
ที่ถัดไปที่เราแวะมาลงก็คือ Panda lake เราข้าม Arrow Bamboo Lake ไปเพราะว่าเราถ่ายไปแล้วตอนเช้า และก็อยากไปให้ทั่วๆมากกว่าไปไล่เก็บอีกรอบนึง ซึ่งจริงๆจะลงที่ Arrow Bamboo Lake แล้วเดินมาที่ Panda lake ก็ได้มีทางเดินให้อยู่ ดูทรงแล้วก็น่าจะสวยล่ะมั้ง (เราไม่ได้เดิน)
เรานั่งรถมาลงที่ Panda lake แล้วก็ประทับใจมาก ถ่ายรูป วนไป วนมา วนไป วนมา และก็คิดว่าควรเริ่มออกเดินก่อนที่จะไม่ได้ไปไหนเลย ซึ่งเราจะเดินยาวๆ จาก Panda lake จะไปเจอ Panda lake Waterfall และก็จะมาถึง Peacock Riverbed ถ่ายรูปวนไป วนมา วนไป วนมา อีกเช่นเคย
และเดินต่อไปติดๆกันก็คือ Five Flowers Lake ซึ่งที่นี่คือที่สุดของที่สุดจ้า วนถ่ายไปถ่ายมา เบียดเสียดขั้นสุด วนอยู่นานมาก กินข้าวก็ตรงนี้แหละจ้า จากนั้นก็ตัดสินใจไปเก็บด้านซ้ายที่เหลือให้หมดดีกว่า
เราจึงนั่งรถไป Long Lake อยู่ถ่ายรูปได้แปปนึง แสงบ่ายที่ Long lake นี่คือย้อนแสงเต็มๆ แถมคนขับก็บอกว่ามาจะพาไปส่งที่ทะเลสาบถัดไป ไอ้เราก็ลืมว่า รถที่นี่ไม่มีระบบย้อน เราอยู่ถ่ายรูปที่ Long lake ได้แปปเดียวก็ นั่งรถไปลงที่ Five Colored Pond ต่อเลย และก็พยายามจะเดินกลับมาที่ Long lake เพราะคิดว่าแสงน่าจะดีขึ้นแล้ว แต่ก็พบว่ามันไกล และก็เหนื่อยเกินกว่าจะเดินกลับไปอีก (เพราะวันนี้เดิน เยอะมากจริงๆ) ก็เลยตัดสินใจนั่งรถกลับ
ระหว่างกลับก็เก็บภาพ Upper/Lower lake ไปด้วย ซึ่งก็เข้าใจที่ไม่มีป้ายจอดละนะ สวยแต่ไม่ถึงขนาดต้องจอดดู อารมณ์นั้น
พอเราลงมาถึงศูนย์นักท่องเที่ยว (จุดต่อรถนั่นแหละ) เราก็ค้นพบว่ารถนี่วิ่งต่อทางออกเลยจ้า ก็เลยสบายไปไม่ต้องเดินเยอะ พอรถจอดเก็บคนที่ป้ายแรก เราก็เลย ลงไปเก็บภาพ น้ำตก Nuo ri lang waterfalls ซึ่งข้อดีคือคนน้อยมากกกก และก็แวะลงที่ Shu Zheng village แวะถ่ายรูป Shu Zheng lake ด้วยความที่เย็นมากแล้ว และคนขับก็กำลังพูดอะไรสักอย่าง ที่เราฟังไม่ออกแต่รู้สึกได้ว่า มันเย็นแล้ว ให้ขึ้นรถ ออกเดี๋ยวนี้ โอเค ออกก็ออก
วันที่สอง
ด้วยความที่ Five Flowers Lake นั้นประทับจิตเรามากเมื่อวาน วันนี้ตอนนั่งรถเข้ามาอีกรอบ จากแผนแรกว่าจะไปเก็บ Arrow Bamboo Lake เราก็เปลี่ยนแผน เป็นลงปุ๊ปแล้วจับรถต่อมาที่ Five Flowers Lake โดยทันที ไม่เสียเวลาไปกับใดๆ เพราะเราอยากไปถึงเป็นกลุ่มแรกๆ และเราก็ทำได้
ผลลัพธ์ของมันคือ เลอค่า ดีงามมากกกกกกก เราเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อวานพนักงานบนรถถึงทำหน้าหงิกใส่เรา ตอนเราบอกจะนั่งผ่าน Five Flowers Lake ไปที่ Mirror lake เราขอโทษ เราน่าจะเชื่อพนักงานนนน โยนทุกรีวิวที่บอกให้ไป Mirror Lake ตอนเช้าเป็นอันแรกทิ้งไปเลย ไปที่ Five Flowers Lake เป็นที่แรกจะเลอค่าดีงามมากกว่าเยอะ
หนึ่งคือ คนน้อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เพราะทุกคนจะลงที่ Arrow Bamboo Lake และค่อยๆเดินๆมา ตามแบบที่เราทำเมื่อวาน ฉะนั้นสายๆ จะมีนักเดินขาแรงมาถึงแล้ว แต่เรามาถึงตอนเช้า มันดีงามจริงๆ ที่สุดของที่สุด มีหมอกลอยจางๆ สะพานไม่มีคน น้ำนิ่งสงบ เป็นกระจกเหมือนกัน สองคือ มันมีที่เดินให้เดินเยอะมาก มุมสวยทุกจุด ถ้ามาตอนสายๆบ่ายๆ กว่าจะเก็บได้ครบ บอกเลย หมดแรง ไม่มีเวลาด้วย
จากนั้นเราก็เดินวนจาก Five Flowers Lake ไปที่จุดชมวิวมุมสูง ซึ่งเป็นวิวที่พี่ในทริปสงสัยอยู่ว่าเค้าไปถ่ายกันมายังไงเพราะ ถ้าเดินอยู่ที่ Five Flowers Lake จะไม่เจอวิวนี้ เนื่องจากมันจะต้องเดินออกมาอีก คือค่อนข้างไกลจากจุดไฮไลต์ ทางเดินไม่ยากเท่าไหร่ ก็จะมาถึงจุดชมวิวของ Five Flowers Lake จากมุมสูง ซึ่งมันเลอค่ามาก คนน้อย และวิวดีงามมาก
วิวนี้ถ้านั่งรถผ่านก็จะเป็นวิวที่สวยมาก จนหลายคนควักกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีได้จอดถ่ายรูป คือมันอยู่ตรงช่วงหัวโค้ง ฉะนั้น ถ้ารถที่เรานั่งขึ้นไปจอดรอคิวก็จะได้ถ่าย แต่ตอนเรานั่งรถ เราถ่ายไม่ได้เลย ดีที่วันนี้เดินมาเก็บ พร้อมกับรับสายตาใคร่รู้และอิจฉาของคนบนรถว่าพวกเอ็งไปอยู่ตรงนั้นได้ไง (คือเดินมาไกลนะ กว่าจะมาถึงตรงนี้เนี่ย /ยิ้มมุมปาก) และเราก็เผาเวลาตรงนี้ไปอีกนานมาก คือรวมๆอยู่ที่ Five Flowers Lake เกือบถึงเที่ยงเลย
และก็ตัดสินใจเดินต่อ (คือวันนี้นี่ขาแรงเลย เดินเกือบทั้งวัน) พอเดินย้อนกลับไป ก็จะผ่าน Golden Bell Lake คือถ้าไม่ได้มาหาข้อมูลต่อทีหลังก็จะเข้าใจไปเองว่ามันคือ ส่วนหนึ่งของ Five Flowers Lake แล้วก็เดินต่อมาที่ Pearl Shoals และ Pearl Shoals waterfall สวยไหม สวยทั้งคู่นะ แต่เราโดนสปอยล์ด้วย Five Flowers Lake มาแล้ว เราเลยเฉยๆ และตอนเรามาถึงคือเที่ยง แดดส่องหัว แสงห่วยมาก เลยเฉยๆ นั่งกินข้าวไป
จากนั้นเราก็มานั่งดูแผนที่กันละว่าจะยังไงดี จาก Pearl Shoals waterfall นั้นมีทางเดินต่อไปได้ วนรอบ Mirror lake ไปที่ศูนย์นักท่องเที่ยว แต่ด้วยความที่เราอยากลงไปเดินเก็บข้างล่าง และเมื่อวาน Mirror lake ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรขนาดนั้น เราเลยตัดสินใจนั่งรถ ไปเก็บส่วนข้างล่างแทน
และด้วยความที่เราเก็บน้ำตก Nuo ri lang waterfalls ไปแล้ว และเมื่อวานShuzheng lake อันสุดท้ายค่อนข้างประทับใจด้วย วันนี้เราเลยตัดสินใจผ่าน น้ำตก Nuo ri lang waterfalls ไปเริ่มที่น้ำตกแรดเลย และก็ตัดสินใจเดินด้านใน เพื่อไป tiger lake ซึ่งเอาจริงๆ เราควรเดินติดด้าน ถนน เพราะเอกลักษณ์สำคัญของจิ่วไจ้โกวคือใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ การไปเดินด้านใน ฝั่งใบไม้เปลี่ยนสี มองออกไปเห็นถนน มันจะไปเห็นอะไรเล่า!
พอคิดได้ดังนั้น เราก็เดินมาถึง shuzheng waterfall พอดี เลยเดินข้ามกลับไป ก็จะมาถึง shuzheng village และ shuzheng lake ที่เราแวะเมื่อวานด้วย จะทำอะไรเล่า ก็ถ่ายรูปวนไป วนมา วนไป วนมา
ความสวยของ shuzheng lake คือการที่ทะเลสาบหลายๆอันเรียงต่อกันไป น้ำสีฟ้ามาผสมกับใบไม้สีเหลือง สีแดงนี่คือที่สุด จากนั้นเดินต่อๆมาก็จะถึง Sleeping Dragon lake ซึ่งเราก็ให้เป็นที่สุดอีกช่นกัน ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้แต่เราชอบมาก จากนั้นก็เดินต่อมาถึง sparkling lake และก็เดินต่อมาเจอกับน้ำตกอะไรไม่รู้ เดาว่าน่าจะเป็น Huo hua lake waterfalls
จากนั้นเราก็เดินแบบแบตหมด แบตกล้องและแบตเรา มาถึง Reed Lake ทะเลสาบที่เราเล็งตั้งแต่นั่งรถเข้ามาแล้ว เพราะมันดูสวยดีมีร่องน้ำผ่าน ก็ถ่ายรูปไปมา แบบแบตติดๆดับไปเรื่อยๆ จนมาถึง Bonsai lake แล้วเราก็รอรถพาออกไปส่งปากทางแบบแบตเหลือขีดเดียวไว้เดินกลับที่พัก
เดี๋ยวรีวิวแต่ละจุดแบบละเอียดๆ และรูป รูป รูป จะมาเขียนแยกอีกพาร์ทนึง (/ขายของล่วงหน้า)
