Orwell เป็นเกมที่จะให้เราสวมบทบาทเป็นนักสืบที่อยู่นอกประเทศ ชื่อ The Nation ที่จะต้องสืบคดีระเบิดกลางเมือง โดยทำงานผ่านระบบ Orwell ระบบติดตามชีวิตประชาชน ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างบนอินเตอร์เนต โทรศัพท์ อีเมลล์ คอมพิวเตอร์ ของประชาชนที่เราสงสัยได้
เป็นเกมที่เล่นแล้วเพลินมาก แต่อย่าคาดหวังกับกราฟฟิคขั้นเทพ แอคชั่นกระจุยกระจาย เพราะเกมนี้ดำเนินการโดยเน้นเนื้อเรื่องเป็นหลัก ไดอะล็อก ข้อความ บทสนทนาที่ต้องอ่านจะเยอะมากกกก คือทุกอย่างเป็นตัวอักษร เน้นการอ่านเป็นหลัก ซึ่งความสนุกมันอยู่ที่ เราอ่านและเราต้องตัดสินใจจากข้อมูลทีเราเห็นตรงหน้าเท่านั้น เพื่อสืบหาข้อมูลใหม่ไปเรื่อยๆอีก ขนาดว่าถ้าอัพโหลดว่าชอบตกปลา ยังมีเว็บนักตกปลามาให้ไปอ่านเลย
โดยเกมจะให้เราเข้าไปค้นข้อมูลทุกอย่าง และอัพโหลดทุกอย่างเข้าไปในระบบ ซึ่งทุกข้อมูลที่เราอัพโหลดเข้าไปจะมีผลต่อผู้ต้องสงสัยคนนั้นๆทันที เช่นที่อยู่ ลักษณะนิสัย ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่เราในการเลือกที่จะอัพโหลดข้อมูลเข้าไปในระบบ เราสามารถทำให้คนนึงดูเป็นคนดุร้ายป่าเถื่อน โดยเลือกอัพโหลดข้อมูลด้านโหดร้ายที่คนนั้นโพสเพราะอารมณ์โกรธเกรี้ยวเข้าไปก็ได้ หรือจะเลือกอัพโหลด ด้านสงบเรียบร้อยก็ได้ เพื่อหาตัวคนร้ายผู้ก่อเหตุวางระเบิดกลางเมืองสองครั้ง และสืบหาระเบิดครั้งที่สามที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งทุกอย่างจะนำมาสู่บทสรุปสุดท้ายที่จะให้เราเลือก ว่าเราจะจัดการยังไงกับระบบนี้
สปอยล์ตั้งแต่ตรงนี้เป็นต้นไป
.
.
.
.
เกมจะเริ่มที่ผู้ต้องสงสัยคนแรกคือ Cassie Watergate ที่มีประวัติทำร้ายตำรวจตอนประท้วงเรื่อง Safety Bills คร่าวๆคือกฎหมายด้านความมั่นคงที่สามารถให้เราสามารถบอกว่าใครผิด โดยอาศัยหลักฐานที่ชี้นำได้ว่าทำความผิด หรือง่ายๆคือ เป็นกฎหมายที่ให้รัฐละเมิดความเป็นส่วนตัว และเข้าค้นข้อมูลของประชาชน และหาหลักฐานการทำผิดมาเอาผิดคนคนนั้นได้นั่นเอง ซึ่งเราก็ฉุกใจอยู่นิดๆละว่า นี่มันคือกฎหมายที่ก่อกำเนิดOrwell ขึ้นมานั่นเอง
เราจะเริ่มสืบทุกอย่างจากตัวCassie ผ่านการตรวจข้อมูลต่างๆหลายๆด้านและอัพโหลดเข้าไปในระบบ ซึ่งเราจะทำให้Cassieดูเป็นคนดุร้ายป่าเถื่อนมากก็ได้ หรือจะทำให้ดูว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นคนรุนแรงก็ได้ ซึ่งเราเลือกที่จะอัพโหลดข้อมูลที่ทำให้Cassie ดูมีแนวโน้ม และเกมก็จะนำไปสู่ข้อมูลที่ชี้นำว่าCassieทำผิดจริงๆ ซึ่งจะแบบไหนก็แล้วแต่ เดาว่าCassie จะถูกตำรวจจับเช่นเดิม ขนาดเราเลือกแบบที่ดูซอฟท์ให้Cassie ดูเป็นคนดีแล้วนะ ยังโดนจับเลย
ซึ่งพอเล่นมาถึงตรงนี้สักพักแล้วก็รู้สึกว่า อืมม มันง่ายมากนะที่จะทำให้ใครสักคนที่เราไม่รู้จักดูดีหรือดูร้ายก็ได้ ทั้งๆที่เราไม่รู้จักเค้าเลย ก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าCassieเป็นคนร้ายจริงๆเราจะทำอะไรพลาดไปไหม แต่พอคิดถึงลักษณะบุคลิกบางอย่างแล้ว เราก็คิดว่าCassieไม่น่าจะใช่หรอก…ซึ่งก็คิดอยู่ว่ามันจะใช่หรอ วิธีการในการสืบหาคนร้ายแบบนี้ แบบที่ Orwell กำลังทำอยู่ มันดูไม่น่าจะใช่อย่างที่มันควรจะเป็น
หลังจากCassie โดนจับก็เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง โดยเราต้องมารื้อค้นและเริ่มสืบต่อไปอีก จนเจอกับกลุ่ม Thought ที่เป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านเรื่อง Safety Bills โดยเราจะสืบผ่านสมาชิกคนอื่นๆในกลุ่มนี้ และมีการบ่งชี้ว่าจะเกิดระเบิดอีกครั้ง ซึ่งเราต้องเลือกที่จะให้ข้อมูลป้องกันเหตุร้ายให้ได้ ซึ่งเราเลือกถูก โชคดีจัง!
จากนั้นเราจะต้องมาสืบกับชีวิตของสมาชิกอีกคนนึง ชื่อ Nina โดยอ่านประวัติมากมาย และจะมีข้อมูลสำคัญอยู่หลายจุดที่เราจะจะต้องอัพโหลดเข้าระบบไป ซึ่งข้อมูลเหล่านี้แหละ จะเป็นตัวชี้นำว่า Nina นั้นทำผิดหรือไม่ เช่น ช่วงที่เกิดเหตุเราจะต้องเลือกว่า Nina ไปทำงานแถวนั้นไหม (บ่งชี้ว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ) ประสบการณ์ทหารในอดีต (บ่งชี้ว่ามีความรู้เรื่องระเบิด) ที่อยู่ของ Nina ซึ่งเราจะต้องเลือกว่าเป็นที่ไหน
ซึ่งเราเลือกอัพโหลดข้อมูลบ่งชี้ไปหมดเลย ตำรวจก็เลยอนุมัติออกหมายจับ Nina และเราเลือกที่อยู่ถูก ตำรวจเลยบุกไปจับได้ แต่ก็เกิดเหตุปะทะกันระหว่างNinaกับตำรวจ ซึ่งตรงนี้อยู่ที่เราที่แอบดักฟังข้อมูลอยู่ ว่าจะให้ข้อมูลลึกแค่ไหน ซึ่งน่าจะส่งผลต่อการจับกุม และเราเลือกที่จะให้ข้อมูลลึกมาก เลยเกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดคือ Nina เสียชีวิต …..
ซึ่งเป็นการเสียชีวิตที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ เพราะข้อมูลที่เราอัพโหลดเข้าไปเป็นแค่ข้อมูลบ่งชี้ว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทำผิดจริงหรือไม่ว่ากันอีกทีนะ เราก็มีคำถามค้างคาอยู่ว่าจริงๆแล้วมันควรจะเป็นแบบไหน เราให้ข้อมูลความเป็นไปได้มากเกินไป จนNina ถูกยิงเสียชีวิต ไม่มีโอกาสจะแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ถ้าNinaเป็นคนร้ายจริงๆแล้วเราปล่อยให้หลบหนีไปละ จะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆอีกหรือป่าว?
เอาจริงๆ เกมนี้ทำได้ดีมากๆ ระหว่างที่เล่นที่ทำให้เราต้องคิดทบทวนล่ะ ว่าระบบนี้มันไม่ว่ายังไงมันก็มีผลต่อทุกคนจริงๆนะ กับการละเมิดความเป็นส่วนตัวแล้วอัพโหลดข้อมูลที่แค่มีแนวโน้ม บ่งชี้ ว่าจะเป็นอย่างนั้นเข้าไป และเราจะทำให้ทางการมองคนคนนั้นเป็นยังไงก็ได้ เราเซ็งที่ทำให้Nina ตายจนเกือบจะเลิกเล่นละ แต่ก็ตัดสินใจไปต่อให้จบ
ตอนนั้นเรามีความคิดใหม่ที่จะทำให้ Orwell ดูไม่ดี และมีทฤษฎี (คิดเอง) ขึ้นมาว่า หรือรัฐบาลจะทำเหตุระเบิดเอง (ไปไกลมาก) คืองี้มันจะมีแฮคเกอร์เข้ามาป่วนตลอดเวลาที่เราสืบอยู่ และเรารู้สึกว่าทำไมแฮคเกอร์รู้เท่าเราเลย เพราะเราให้ข้อมูลกับแค่รัฐบาลเท่านั้นเอง ก็เลยทำให้สงสัย พอมีเหตุการณ์ที่ให้เราจัดเต็มกับที่ปรึกษาที่เราให้ข้อมูล เราจัดเต็มที่เลย หมั่นไส้ อยากให้ผลลัพธ์เกิดเต็มที่ เพราะที่ปรึกษาคนนี้พยายามบอกเราว่าให้ อัพโหลดประวัติทุกอย่าง เลยจัดให้ อยากให้เค้ารู้ว่ามันมีผลกับชีวิตคนจริงๆ และก็เปลี่ยนที่ปรึกษา (ฮ่าๆ ไว้เล่นรอบใหม่จะลองอีกแบบ)
แต่เราพอเดาตอนจบออกละ ว่าเกมจะสื่ออะไรกับเรา เกมกำลังบอกเราว่า ไม่มีที่ไหนปลอดภัยที่จะกันข้อมูลไม่ให้รั่วไหลหรอก ขนาดเจ้าหน้าที่เองยังโดนเลย เราเดาว่ายังไงก็ตามประวัติเราจะต้องหลุดขึ้นไปแน่นอน (แต่ยังไม่รู้นะว่ามันจะมีให้เลือกจบหลายแบบ
แต่ก็นั่นละ เราก็มาสืบกันต่อ ค้นประวัติสมาชิกคนรอบข้างไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดที่เราได้เข้าไปประชุมสายกับสมาชิกกลุ่มThought ซึ่งมาถึงตรงนี้ ระหว่างบทสนทนาระหว่างประชุมสาย สมาชิกจะพูดกับเรา เสนอทางเลือกให้เรา ว่าจะขายระบบOrwell หรือขายรมต. หรือเราเลือกสืบเองต่อไปตามเป้าหมายเดิม หลังการประชุมสายจบลง เราจะเหมือนอันล็อคสู่ข้อมูลมากมายเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้เราจะต้องเลือกละว่าจะทำยังไง
ซึ่งความตั้งใจเดิมของเราก่อนจะมาถึงการประชุมสายเลยคือเราจะขายระบบ Orwell อยู่แล้ว เราพยายามอัพโหลดทฤษฎีว่ารัฐบาลเป็นคนทำมาตลอด แต่พอประชุมสายเสร็จ เราแอบจุกเล็กน้อย เพราะกลุ่มThought เองนั่นแหละที่เป็นคนทำอย่างที่ถูกกล่าวหาจริงๆ จากกลุ่มประท้วงเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว กลายมาเป็นกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง ต้องการระเบิดเพื่อเรียกร้องความสนใจให้คนมาสนใจใน Safety Bills และก็เป็นกลุ่มนี้เองนี่แหละ ที่หลอกNina ให้ไปวางระเบิด (เอาจริงเล่นจบนี่ยังไม่รู้เลยว่าใครทำระเบิด รู้แค่ Nina เอาไปวาง) ไม่รู้สิ พอมาถึงตรงนี้ เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้วแหละ นอกจากนี้เรายังรู้สึกผิดที่ทำให้Ninaตายด้วยส่วนหนึ่ง)
Orwell ละเมิดความเป็นส่วนตัวก็จริง แต่ก็ไม่ทำให้ใครตาย…จริงๆก็ทำตายไปหนึ่งและ แต่ด้วยตัวระบบเอง ไม่ใช่ระบบที่จะเป็นต้นเหตุทำเรื่องร้าย คือแค่เป้นระบบขี้เผือกเท่านั้นเอง และเราเจอเหตุการณ์ประท้วงเพื่อผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการ โดยเน้นมุ่งผลด้านความรุนแรงและผู้เสียชีวิตมาหลายครั้ง เราไม่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่Thought ควรจะทำ
ถ้าเราขายระบบOrwell ไป กลุ่มนี้ก็จะถือว่าประสบความสำเร็จในการก่อความรุนแรง เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ และกลุ่มอื่นก็จะทำบ้าง ไม่รู้สิ มันน่าจะมีวิธีอื่นมากกว่านี้นะ เพราะเรารู้สึกว่าจะสื่อสารเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัว มันน่าจะมีวิธีตระหนักรู้อย่างอื่นมากกว่าเรื่องความรุนแรง
สุดท้ายเราขายกลุ่มนี้แหละ ให้โดนจับไป เพราะเรารู้สึกว่าคนวางแผนของกลุ่มนี้ กำลังชักใยให้คนทำเรื่องที่ไม่ดี อันตราย รุนแรง เพื่อหวังผลโดยไม่ยอมลงมือทำเอง และยังทำเหมือนการป้ายสีอีกด้วย เราไม่ชอบวิธีการของกลุ่มนี้ แค่นั้นแหละ (อคติไหมละ)
และสุดท้ายก็จบที่ประวัติกับโปรไฟล์เราก็ขึ้นไปอยู่บน Orwell หึ ไงละ กัดเจ็บตรงนี้หละ แต่เอาจริงๆ ถ้าสังเกตมาตลอดเกม มันพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าสุดท้ายไม่มีอะไรที่เป็นความลับบนโลกออนไลน์หรอก
เราไม่รู้หรอกว่าคนทำเกมต้องการทำให้ผู้เล่นรู้สึกยังไง แต่ทำได้ดีมากกกกก ในทุกๆด้านเลย คือไม่ทำออกมาว่าใครขาว ใครดำ ใครผิด ใครถูก ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองในการกระทำ อยู่ที่เราจะมองเหตุการณ์นั้นยังไง เป็นการจำลองให้เห็นภาพชัดๆว่าถ้ามีการละเมิดสิทธิบุคคลขนานใหญ่ขนาดนี้ โดยภาครัฐแบบถูกกฎหมายขึ้นมามันจะเป็นยังไง หึหึ ตลกร้ายสำหรับคนไทยหน่อยๆนะ (แต่ก็งงที่ทำไมไม่โดนแบน แต่ไปแบนเกมอย่างTropico เนี่ยนะ??)
สำหรับเราระบบอย่างOrwell ถ้ามีขึ้นมาจริงๆ คงเป็นคำถามที่ไปไกลกว่าเรื่องละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมาก คำถามคือใคร ที่จะมาทำหน้าที่เป็นผู้อัพโหลดข้อมูลเข้าไปใน Orwell แล้ว ใครจะเป็นคนดูพวกนักสืบออนไลน์พวกนี้ ข้อมูลข้อความบนโลกออนไลน์นั้น เป็นแค่ตัวอักษรที่เราเห็น แต่ไม่มีอารมณ์ ไม่เห็นถึงความตั้งใจจริงๆของผู้สื่อข้อความนั้นเลย
และยิ่งไปกว่านั้น ขนาดเราเป็นคนธรรมดาเล่นเกมในโลกออนไลน์ ที่เรารู้อยู่แล้วว่าคนพวกนี้ไม่มีจริง ลบและติดตั้งใหม่กี่ครั้งก็ได้ เปิดมาเล่นกี่ครั้งคนพวกนี้ก็ไม่ตาย แต่เราก็ยังรู้สึกไปด้วยเลย แต่คำถามที่เกิดขึ้นเลย แล้วถ้าระบบนี้มันมีจริงๆ คนจริงๆ ตายจริง ไม่มีรีเซทละ? คนที่มานั่งสืบ จะไม่ใช่อารมณ์ส่วนตัวมาเบี่ยงเบนผลลัพธ์เลยหรอ มันเป็นไปไม่ได้หรอก
เรทความน่าเล่น เกมนี้ดีงามมากกกก จัดเป็นเกมที่เราประทับใจมากทุกด้าน คุ้มค่าเงินที่สุดในรอบปีที่เสียตังซื้อมา ไม่อยากให้พลาดดด เล่นได้หลายรอบเลย นี่ว่าจะไปลองแบบอื่นๆอยู่เหมือนกัน เล่นจบแล้วอยากให้มีภาคต่อจังเลย อยากให้ทำหลายๆเหตุการณ์ ไม่จำเป็นต้องเกาะเรื่องหนักๆก็ได้ ไปทำเรื่องข่าวบันเทิงก็ได้ ว่ามันส่งผลยังไงต่อคนที่โดนข่าวป้ายสีอะไรงี้ก็ได้ มันน่าจะเจ๋งมาก
ปล.เกมนี้อยู่ในชุด Badtime Story ซึ่งรวม 3 เกม คือ This War Of Mine เกมที่สร้างมาจากเรื่องจริงตอนสงครามโคโซโว ที่ให้เราเล่นเป็นประชาชนที่ติดอยู่ในเมืองตอนกำลังรบกัน เกมอะไรก็ไม่รู้ หดหู๊ หดหู่ เราทนเล่นไม่จบ อีกเกมคือ Beholder ให้เราตามติดชีวิตผู้เช่าในอพาตเม้นท์ ยังไม่ได้เล่น แต่น่าจะสนุก
