บทเรียนจาก NOKIA กับ ความดันทุรัง (สูง)

170304-nokia

โนเกีย ออกมือถือ แอนดรอยด์ แล้ว!!

พอเห็นข่าวนี้ เราก็ได้แต่เหลือบมองมือถือโนเกีย น่าจะรุ่นสุดท้ายก่อนจะออกรุ่นต่อๆมาในนามของไมโครซอฟท์ ที่ตอนนี้มีประโยชน์ใช้สอยแค่ไว้ปลุกตอนเช้า แล้วถอนหายใจเบาๆ กับเพื่อนคนนี้ แว้บแรกที่รู้สึกเลยคือ ที่ผ่านมาโนเกียคงได้เรียนรู้ความดันทุรังที่ไร้ประโยชน์ไปแล้วสินะ แต่อย่างว่า บทเรียนในชีวิตหลายๆอย่าง ถ้าไม่เรียนรู้เอง ไม่เจ็บเอง ก็คงไม่เข้าใจ แล้วเราได้บทเรียนอะไรจากโนเกียบ้าง??

โนเกีย น่าจะเป็นมือถือเครื่องแรกของคนก่อนปี 2009 หลายๆคน ก่อนที่ไอโฟนจะเข้ามาเป็นตัวเลือกแรกในใจ เอาเป็นว่าเด็กรุ่นใหม่คงไม่รู้จักโนเกียเท่าไหร่หรอก  แต่ในความทรงจำของเราโนเกียคือปรากฎการณ์ที่ฮิตระเบิด โทรศัพท์หลากหลายรุ่น ฟังก์ชั่นมากมายหลากหลาย และมือถือถ่ายรูปได้!

แต่เมื่อโลกหมุนเข้าไปสู่ยุคสมาร์ทโฟน สิ่งที่โนเกียทำ คือ มั่นใจตัวเองเกินเหตุ มั่นใจว่าตัวเองดีพอ และไม่ยอมก้าวไปกับโลก และดันทุรังอยู่กับระบบซิมเบียน ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าเละเทะ และทำให้ลูกค้าตีจากออกไปเรื่อยๆ เป็นการพลิกตำราธุรกิจทุกเล่ม ลืมไปซะว่าเราต้องรักษาลูกค้าเอาไว้

  • ความสำเร็จคือกับดัก

ความสำเร็จ เป็นวัตถุดิบชั้นดี ในการก่อร่างสร้างความมั่นใจ ให้กับเรา ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี เป็นแรงผลักดันที่ดี แต่ถ้ามีมากเกินไป เราจะมองไม่เห็นอย่างอื่น หรือหนทางเลวร้ายที่จะเกิดได้ ความมั่นใจจะทำให้เราขาดการระมัดระวังที่เพียงพอ จากความมั่นใจ จะกลายเป็น แรงดันทุรัง

เมื่อมีแรงดันทุรังเป็นตัวผลักดันแล้ว เราจะฝืนทำอะไร ที่ตัวเราตอนปกติไม่ค่อยทำ เราจะฝืนทำอะไรที่มันเกินตัวเรามากๆ เพราะเราคิดว่าเราต้องทำมันได้! เราเคยทำได้มาแล้ว! โดยที่เราลืมนึกไปว่าโลกไม่ได้หมุนรอบพี่เกดนะ เอ้ย ไม่ใช่ โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา เราไม่สามารถดันทุรังทำไปให้มันเป็นไปตามใจเราได้ โดยเฉพาะเมื่อใดก็ตามที่เรายังทำงานร่วมกับ”คนอื่น”อยู่

ขนาดตัวเราเองก็ยังก้าวจากโนเกียไปสู่สมาร์ทโฟนเช่นกัน แต่ตอนนั้นก็เลือกยี่ห้อง่อยๆ มาพอแค่ใช้ จนวันนึงที่รู้สึกว่าอยากขยับขยาย มองหาอะไรที่ดีขึ้น รู้ไหมเราเลือกอะไร…..แน่นอน เราซื้อโนเกีย เช่นเดิม และเราก็พบว่าโนเกียก็คือเพื่อนคนเดิมที่ไม่มีวันเปลี่ยน เพราะก็ยังดันทุรังไปกับวินโดวส์โฟนอีก

เรารู้ตัวตั้งแต่ตอนซื้อแล้ว ว่ามันจะมากับระบบนี้ เรารับได้…อยู่นานเลย จนวันที่เราต้องการอะไรบางอย่างที่มากขึ้น โนเกียก็คือโนเกีย ที่ไม่ก้าวไปกับโลก แอพน้อยเราไม่ว่า ขอแค่แอพที่จำเป็นควรจะต้องมี สัญญาที่จะขยายตลาด ให้แอพหลากหลายขึ้นเราก็ยังรอ แต่พออัพเดทแล้ว แอพหดหายไปอีก นี่ไม่ไหวละ…..เอาจริงถึงวันที่เลิกใช้ นี่ยังเล่นเกมในไลน์ไม่ได้สักเกมเลย

  • เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเองได้

เรื่องจริงอย่างนึงของชีวิตที่ทำให้เกิดปัญหาความหนักใจมากมาย คือเราคาดหวังให้คนอื่นปรับเปลี่ยนตัวเค้า เพราะอย่างนู้น อย่างนี้อย่างนั้น ควรทำนู่น นี่ นั่นสิ มันเป็นทางที่ดีกว่านะ บลาๆ ทำไมถึงยังทำแบบเดินละ ทำไมไม่ทำแบบที่เราคิดละ…..เสียใจด้วยนะนั่นมันความคิดของคุณ และจะไม่มีวันเกิดขึ้นหรอก!

ฉะนั้นอย่าคาดหวังเลยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรจากคนอื่น ถ้าต้องการการเปลี่ยนแปลงอะไร ทำมันด้วยตัวเองแล้วก้าวต่อไปซะ!

170304-nokia1

วินโดวส์โฟน ไม่ใช่ระบบมันไม่ดีนะ ระบบมันลื่น ดูง่าย ใช้ง่ายมากๆ แต่…..ตลาดแอพมันเล็กเกินไป ซึ่งมันคือปัญหางูกินหาง คนใช้น้อยนักพัฒนาก็ไม่อยากทุ่มเท พอนักพัฒนาน้อยคนก็ไม่อยากใช้ วนๆกันไป แอพดังๆส่วนมากที่คนบนโลกหล้าใช้แอพทางการ แต่บนโลกวินโดวส์โฟน แอพของนักพัฒนาอิสระดีกว่าแอพทางการซะอีก 6tag, tubecast. Line นี่ก็เพิ่งมามีรุ่นหลังนะ เรานับถือคนใช้วินโดวส์โฟนรุ่นแรกๆมาก จะต้องสตรองเบอร์ไหน ต้องอยู่กับความหวังมาขนาดไหน

  • ความตั้งใจที่ดี ก็เป็นแค่ความตั้งใจที่ดี

เรื่องน่าเศร้าอย่างนึงคือ ต่อให้เรามีความตั้งใจที่ดีแค่ไหน ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะมองเห็นคุณค่าของมัน มีองค์ประกอบหลากหลายอย่างมาก ที่จะทำให้ไอเดียนึงมีคุณค่า ในสายตาคนอื่น ฉะนั้น เรียนรู้แล้วจำไว้! อย่าไปผิดหวังกับการที่ไม่คนให้คุณค่าความตั้งใจของเรา แต่ลองถอยออกมามองจากข้างนอกว่าคนอื่นกำลังมองหาคุณค่าอะไรอยู่กันแน่

แค่ภายในเวลา เกือบ 10 ปี โนเกียเปลี่ยนตัวเองจากตัวเลือกแรกในใจของใครหลายคนไปสู่ตัวเลือกที่ไม่มีใครต้องการ แต่สิ่งที่แน่ที่สุดคือ กับคนที่ยังอยู่ กับลูกค้าที่ภักดี โนเกียก็หักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากความดันทุรังของตัวเอง…ที่ยังยืดหยัดยืนยงกับวินโดวส์โฟนมากๆ

มันไม่ใช่การหักหลังหรอกหรือ ในเมื่อโนเกียแทบไม่พยายามเพื่อสิ่งที่ดีขึ้นให้ลูกค้าเลย? ไม่พยายามแล้วยังจะดันทุรังไปต่ออีก…..ทำไม? แต่ตอนนี้ไม่ต้องเสียใจแล้ว ผู้ที่ภักดีกับโนเกียมา ตอนนี้เค้าทิ้งวินโดวส์โฟนไปแอนดรอยด์แล้ว เฮ!!! (อ่อ ท่านอาจจะต้องเสียเงินซื้อโทรศัพท์อีกที)

  • ความไว้ใจเป็นของล้ำค่า

สำหรับเราแล้วมันใช้เวลาสักพักในการสร้าง และใช้เวลาชั่วพริบตาในการทำลาย แต่ใช้เวลาทั้งชีวิตในการเรียกกลับมา ฉะนั้น เราควรรักษาความไว้ใจที่คนอื่นมอบให้กับเราอย่างดีที่สุด เพราะมันมีค่ามากกว่าเงินทอง เวลาใดๆก็ตามที่เราจะเอาความไว้ใจที่คนอื่นมอบให้เราไปแลก

เอาจริงๆมันก็ไม่ใช่ความผิดโนเกียหรอกร่วมด้วยกับไมโครซอฟท์ แต่สำหรับเรา ในระยะเวลา เกือบ 10 ปีมันต้องมีจุดที่โนเกียเลือกได้ และทุกครั้งในความรู้สึกเรา โนเกียจะเลือกตัวเลือกดันทุรังตลอดเลย ยกเว้นครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่าโนเกียลดอัตตาตัวเองลง…..ขอบคุณนะ

  • อย่ายอมแพ้ หลายคนรอให้กำลังใจคุณอยู่

เราชอบทฤษฎีชีวิตอันนึงที่อาจารย์เคยสอนเรามากๆ จะเรียกว่าเป็นการย่อแล้วยืดก็ได้ โดยสรุปคือ ชีวิตคนเราจะมีทั้งขึ้นและลง มีทั้งเวลาที่ดีและที่แย่ ชีวิตเราจะพุ่งขึ้นไปถึงจุดหนึ่งแล้วมันจะตกลงมา แต่วันที่มันพุ่งขึ้นไปอีกครั้ง มันจะขึ้นไปสูงกว่าเดิม เรียกว่าทำNew High ไปใหม่เรื่อยๆ ก็ว่าว่าโนเกียกลับมาคราวนี้จะ พุ่งยืดไปให้สูงกว่าเดิมนะ

เราเป็นคนที่เชื่อในเรื่องโอกาส 3 ครั้งมากๆ และก็ยังอยากจะเก็บโอกาสครั้งสุดท้ายกับโนเกียไว้ก่อนนะ 🙂

ปล.ตอนแรกจะให้ชื่อเรื่องว่า ถอดบทเรียน Nokia กับความดันทุรังที่ไร้ประโยชน์…..แต่จะว่าอย่างนั้นเลยซะทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะโนเกียก็ดันทุรัง ออกโทรศัพท์มาอีกที ถ้าเรียกว่านักสู้ผู้ดันทุรังสูง ไม่ยอมถอดใจก็ดูจะตรงกว่าเยอะ