เวลาจะช่วยรักษาทุกสิ่งทุกอย่างเอง….. จริงๆอยากจะเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่เงินหายแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เขียน จนมากระเป๋าตังค์หายอีกทีเนี่ยแหละ เลยมารู้สึกตัวว่าเอ้ะ เมื่อก่อนก็เคยทำของหายนะ แต่ด้วยคามเป็นคนที่ไม่ค่อยทำอะไรหายเท่าไหร่ พอหายทีก็จะเฟลและอึนไปนานมาก แต่มาคราวนี้ เรากลับแทบไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ เลยมานั่งนึกๆดูว่าทำไมเราถึงรู้สึกกับการที่เงินหายของหายครั้งนี้น้อยจัง เงินหายของหายสองครั้งและเรายังรู้สึกเหมือนกันทั้งสองครั้งด้วย ไม่ได้เสียใจนะ เสียดายนิดหน่อย เซ็งเล็กน้อย ประมาณสิบนาที และหลังจากนั้นก็ออกไปในแนวเฉยๆ เออคือมันหายไปแล้วอะนะ จะไปทำอะไรได้ คิดไปคิดมาก็นึกถึงคำที่เค้าสอนชอบปลอบกันว่า เวลาก็จะช่วยรักษาทุกสิ่งทุกอย่างเอง ซึ่งมันก็จริงนะ เราไม่รู้คนอื่นจะตีความหมายประโยคนี้ยังไง แต่สำหรับเรา ที่เวลามันช่วยรักษาทุกสิ่งทุกอย่างเนี่ย เพราะเวลามันทำให้เราผ่านอะไรมาเยอะขึ้น พบอะไรหลายอย่างขึ้น และไม่พบอะไรหลายอย่างเช่นกัน พอมานั่งย้อนนึกดูที่เรารู้สึกน้อยลงน่าจะเป็นเพราะ หนึ่ง เรื่องนี้ มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น เราเอาไปเทียบกับเหตุการณ์อื่นในชีวิต และมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะเวลาทำให้เราผ่านอะไรมาหลายอย่าง และเรามีคลังประสบการณ์ ความทรงจำอยู่ในหัวมากขึ้น เวลาเจอเหตุการณ์อะไรต่างๆ ก็เอาไปเปรียบเทียบกับของเดิม และก็พบว่าเงินหายเนี่ย เออมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเท่าไหร่นะ มันก็มีระดับความเสียหาย ระดับผลกระทบกับเราอยู่แหละ แต่จะมีขนาดที่ทำให้เราซึมไปเลยทั้งวัน มันก็อาจจะไม่ ไม่ในที่นี้คือไม่มีผลกระทบขนาดนั้นและไม่คุ้มที่จะเป็นอย่างนั้นด้วย เราผ่านอะไรที่น่ากลุ้มกว่านี้มาแล้วนะ แบบที่เค้าชอบบอกว่าเรื่องใหญ่กว่านี้ก็เคยมาแล้วอะไรทำนองนั้น (แต่คือเงินหายปลายเดือนเนี่ยเรื่องใหญ่นะเอาจริง) สอง ขนาดความสำคัญมันเล็กลง เงินเนี่ยมันมีค่าเท่าเดิมแหละ เพียงแต่เมื่อเราเริ่มหาเงินได้ ขนาดของเงินที่มีผลต่อเรามันเลยเล็กลงไปด้วย เงินไม่ได้เปลี่ยนคุณค่าของมัน …