จิ่วไจ้โกว (หุบเขาเก้าหมู่บ้าน) ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านทิเบตจำนวนเก้าหมู่บ้าน จนกระทั่งรัฐบาลจีนเปลี่ยนมาเป็นอุทยานแห่งชาติ (ยังมีหมู่บ้านธิเบตเหลือให้เห็นในอุทยานเช่นกัน) อุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกวจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับคัดแล้วของจีน (AAAAA level) ฉะนั้นเรื่องความสวยงามอลังการไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนจะสวยงามอลังการมากหรือน้อย นั้นก็ขึ้นกับจังหวะที่ไปด้วยเช่นกัน
เอาง่ายๆก็คืออุทยานธรรมชาติ เน้นท่องเที่ยวธรรมชาติ เดินป่า ชมใบไม้ ทะเลสาบ ซึ่งมีทะเลสาบที่สวยมากกกกก ส๊วยสวย สวยจริง สวยจัง ผสมกันไปหมด เอาเป็นว่าเลอค่า
.
ไปทัวร์หรือไปเองดี???
ด้วยความอลังการงานสร้างของจิ่วไจ้โกว ทัวร์ไทยมีไปลงตรึมขร่ะ ถ้าอยากสบายๆ หายห่วง ไม่เวียนเศียร เลือกไปกับทัวร์ก็ไม่เลว เพราะทัวร์จะจัดโปรแกรมให้เหมาะกับคนหลายช่วงวัย ฉะนั้นโปรแกรมเที่ยวจะไม่หนักมาก ควบคุมเวลาให้กินอิ่ม นอนสบาย ไม่ลำบากมาก เหมาะแก่ทริปที่มีผู้ใหญ่มากๆ ไปด้วย (เราเจอกรุ้ปนึงที่มีผู้ใหญ่มากๆไปด้วย ตอนเย็นนี่ถึงขั้นตอนพยุง หิ้วปีกกันเลยทีเดียว อันนั้นดูจะเป็นการพามาลำบากไปสักนิด แต่ก็ไม่รู้นะว่าเค้าอยากมาเองหรือป่าว แต่เราเห็นแล้วก็สงสาร) และถ้าเดินทางเป็นหมู่คณะก็จะมีรถนำชมภายในที่เป็นแบบเหมาไม่ต้องแย่งชิงเช่นกัน (เห็นว่าฟรี คาดว่าถ้าไปเอง มีจำนวนคนเยอะพอ และพูดจีนได้ก็น่าจะติดต่อได้ แต่เราไม่ได้ไปหาข้อมูลมา เพราะคนน้อยและที่สำคัญคือคุยกับพี่แกไม่รู้เรื่อง) คิดว่าทัวร์ไทยที่จัดน่าจะคุยประสานงานไว้ละ
อย่าลืมว่าแม้จิ่วไจ้โกวจะโด่งดังในฐานะสถานที่ท่องเที่ยว แต่คนจีนรอบๆนั้นยังไม่ก้าวไปทันนะฮะ การสื่อสารอะไรต่างๆ ทัวร์จะช่วยท่านได้มากกว่า Wechat Translate แน่นอน
แต่!!! ถ้าอยากไปซึมซับจิ่วไจ้โกวให้เต็มที่ การไปเองจะตอบโจทย์มากกว่า 100% ด้วยความที่จิ่วไจ้โกวมีทะเลสาบเพียบบบบบ ฉะนั้นที่เที่ยวบางจุดของจิ่วไจ้โกวที่ไมใช่จุดไฮไลท์นั้น รถจะเข้าไม่ถึง และที่เที่ยวบางจุดเหล่านั้นจะต้องเดินเท้าเอาเท่านั้น เข้าใจว่าออกแบบมาเพื่อลดการแออัด ให้มีทั้งคนเดินและคนนั่งรถ เพราะถ้าเป็นการนั่งรถลงทุกจุด รับรองอุทยานได้ระเบิดด้วยคลื่นมหาประชาชนอย่างแน่นอน
ฉะนั้น อันดับแรก ต้องสำรวจผู้ร่วมทริปก่อนว่าท่านผู้ชมเดินทางไปกับใครบ้าง?? ถ้ามีผู้ใหญ่มากๆ ไปด้วย เราขอแนะนำให้ท่านไปทัวร์อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี และไม่เหนื่อยมาก (เราไม่มีบริษัททัวร์มาแนะนำ ไว้เปิดเองแล้วจะมาขายของ ฮ่าๆ ยังไงลองไปเดินตามงานท่องเที่ยวดู เลือกบริษัทที่ท่านชอบ ไว้ใจเอาเลย) แต่ถ้าจะลุยเองก็ไม่ว่ากัน ใจไหวก็ลุย ฉะนั้น ถ้าจะไปเองก็อ่านด้านล่างต่อเลยจ้ะ
.
ไปยังไงดี???
การจะไปจิ่วไจ้โกวนั้น อันดับแรกต้องพาตัวเองไปถึงเมืองจีนให้ได้ก่อน (แหงสิ!) พูดให้ชัดๆคือ ต้องพาตัวเองไปถึงเมืองเฉิงตูให้ได้ก่อน ซึ่งจากประทศไทยมีบินตรงไปลงหลากหลายสายการบินเลย อาทิ การบินไทย, Sichuan Airline, China Eastern Airline, Air Asia ราคาแล้วแต่จังหวะจะสอยได้ แต่ทั่วๆไป จะอยู่ที่ราวๆหมื่นนิดๆ สำหรับฟลูเซอร์วิส (ต่ำกว่านี้ก็ถือว่าได้ราคาถูกละนะ) หรืออีกทางเลือกนึงที่เห็นคนนิยมกันมา คือ บินไปลงฉงชิ่งก่อนแล้วนั่งรถไฟต่อมา เท่าที่รู้มีแอร์เอเชียบินไป ราคาโปรงามๆ นี่ห้าพันกว่ามีมาให้เห็นเหมือนกัน ค่ารถไฟจากฉงชิ่งมาเฉิงตูว่ากันว่าไม่เกินหนึ่งพัน (ไม่รู้เท่าไหร่ ถ้าจะไปทางนี้ลองเช็คดูอีกที)
การเดินทางจากเมืองเฉิงตูซึ่งถือเป็นจุดตั้งต้น ไปจิ่วไจ้โกว (ณ ตอนนี้) มีสองทางคือ บินไปกับนั่งรถไป ขึ้นกับงบและเวลาจะเอื้ออำนวย บินไป สบายไม่เหนื่อยมาก แต่ท่านจะไม่ได้ลิ้มรสห้องน้ำจีนในตำนาน (หึหึหึ) ทางการจีนกำลังรถไฟความเร็วสูงอยู่ คาดว่าอีก 3-4 ปีน่าจะเสร็จ (และถึงตอนนั้น คนน่าจะทะลักสุดๆ)
ถ้าจะบินไป ก็ต้องต่อสายการบินในประเทศไปลงสนามบิน Jiuzhai-Huanglong Airport แล้วเหมาแท๊กซี่ไปที่จิ่วไจ้โกวต่อ เหมาะแก่กรุ๊ปที่เดินทาง 3-4คน มีคนช่วยแชร์ค่ารถ แต่ถ้าจะบินไป ไม่แนะนำให้บินจากไทยไปลงเฉิงตู เพราะราคาค่าเครื่องบินภายในประเทศจากเฉิงตูไปจิ่วไจ้โกวนี่แพงเลือดสาดมาก ฉะนั้นถ้าจะบินไปจิ่วไจ้โกวให้บินจากไทยไปลงซีอานก่อน ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ สายการบินภายในประเทศจากซีอานไปจิ่วไจ้โกวถูกกว่ามาก
***เห็นเค้าว่าสายการบินจีนจองก่อนสองเดือนจะเป็นช่วงที่ถูกที่สุด ไม่รู้จริงหรือป่าวนะ อ่านมาจากบล็อกเกอร์สักคนที่เปิดดูราคาตั๋วทุกวัน
ส่วนการนั่งรถไปจิ่วไจ้โกว นั้นให้เผื่อเวลาไปเลยเต็มๆหนึ่งวัน ระยะเวลานั่งรถจากเฉิงตูไปจิ่วไจ้โกวนั้นอยู่ราวๆ 10 ชม. มากน้อยกว่านั้นแล้วแต่จังหวะ ซึ่งระหว่างทางท่านผู้ชมจะได้พบกับเส้นทางอันสวยงาม และห้องน้ำจีนอันเลื่องชื่อ! ตำนานที่ได้ยินมาแบบไหน อยู่ระหว่างทางนี่แหละ วัดใจกันไปเลย บอกได้แค่ว่า ห้องน้ำ ถ้ามีประตูนี่จัดว่าเกรดเอแล้ว อย่าคาดหวังมากกว่านั้น ฉะนั้นถ้าผวาห้องน้ำจีนมาก ก็อาจจะเลือกบินไป! ไม่แนะนำให้เลือกทานน้ำน้อยๆแทน เพราะจิ่วไจ้โกวอยู่บนที่สูง คนที่ราบอย่างชาวเราควรทานน้ำเข้าไปเยอะๆ มันช่วยได้จริงๆ
***ข้อควรระวัง คือ จิ่วไจ้โกวอยู่บนที่สูง 2,000-4,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ร่างกายเราต้องการการปรับตัว ฉะนั้น การนั่งรถไปจะได้เปรียบตรงนี้นิดนึง คือระดับความสูงมันไม่กระโดดเร็วเกินไป และเราถึงจิ่วไจ้โกวเย็นๆก็มีเวลาเดิน นอนก่อนคืนนึงก่อนเข้าอุทยาน การบินไปลงใช้เวลาน้อย เลยจะทำให้เราไม่มีเวลาปรับตัว ประสบการณ์ก่อนที่บินไปลงสนามบิน ณ ระดับความสูง 3,000 กว่าเมตรจากระดับน้ำทะเล ออกจากเครื่องปุ๊ป หัวใจเต้นเร็วมาก!! แต่ถ้าคิดว่าไหว กินยาช่วยได้ ก็บินโลด
.
ไปช่วงไหนดี???
ตุลาคม คือช่วงที่เลอค่าที่สุดของจิ่วไจ้โกว เพราะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี สำหรับชาวไทยเรา อาจจะไปช่วงวันหยุด 23 ตุลาคม ก็ไม่เลว มีวันหยุด ฤดูกำลังสวย กลางตุลาคม ถึงปลายตุลาคม มีใบไม้เปลี่ยนสีให้เห็นทั่วไป ส่วนต้นพฤศจิกายนก็น่าจะยังมีให้เห็นอยู่บ้าง ส่วนหลังจากนั้นจะเข้าหน้าหนาวแล้ว ก็บอกเลยว่าหนาวไม่ธรรมดาแน่นอน ตอนที่ไปอุณภูมิมีระดับ 10 องศา อยู่บ้างถ้าไปหลังจากนั้นก็หนาวขึ้นเรื่อยๆ และเจอหิมะ เย้!
ช่วงกลางปี พ.ค. – ก.ค ก็น่าจะเป็นช่วงใบไม้เริ่มแตกใบ และงอกเติบโต ถ้าไปช่วงนี้ก็อาจจะได้อีกฟีลลิ่งนึง แบบเขียวๆ เริ่มเขียว ถ้าจะไปก่อนหน้าตุลาคม ก็จะได้จิ่วไจ้โกวแบบเขียวๆ ส่วนช่วงปลายกันยายนอาจจะมีเริ่มเปลี่ยนสีไปบ้างแล้ว เพราะตอนไป บางที่ก็มีใบโกร๋นไปแล้ว แต่ต้องกะจังหวะ หนีออกมาให้ทันก่อนวันชาติจีนนะ (ช่วงวันที่ 1-7 ตุลาคม) เพราะมิเช่นนั้นท่านจะได้พบเจอมวลมหาประชาชนจีนแน่นอน ถ้าจะไปปลายกันยายนแนะนำให้รออีกนิดแล้วไปตอนตุลาคมจะดีกว่า
.
ไปกี่วันดี???
อย่างน้อยๆต้องเผื่อเวลาไว้ 5 วัน เป็นอย่างต่ำ รวมเวลาเดินทางแบบเร่งรีบ บินรัวๆ รวบเอาบินจากไทย ต่อเครื่อง มา จิ่วไจ้โกว วันเดียวกัน เข้าไปเที่ยวจิ่วไจ้โกวสองวัน และต่อไป ฮวงหลง1วัน และอีกวันบินกลับต่อเครื่องมาประเทศไทย แต่ถ้าจะตัดฮวงหลงออก ก็เที่ยวสี่วันได้ (ซึ่งน่าเสียดายอยู่ถ้าจะตัดออก) และถ้าจะเที่ยวเข้าจิ่วไจ้โกวแค่วันเดียว ก็ลดเหลือสามวันได้ (แต่พี่จะไปทำไมน้อ รีบเกินไป) รูทนี้ไม่รู้ว่ามีไฟล์ทที่จะปฏิบัติจริงได้ไหมนะ และราคาจะบานปลายมหาโหดขนาดไหน ถามใจเธอดู แต่ถ้าไม่มีเวลา สายเปย์พร้อมจ่าย ใจสู้ ลุยไหวก็ลองดู
แต่เอาสบาย เที่ยวชิวๆ ถ้าบินมาลงเฉิงตู ก็ควรมี 7-8 วันเป็นอย่างน้อย ขึ้นกับว่าบินมาลงกี่โมง ถึงดึกเที่ยวเช้าเลย 7 วันก็พอดีๆ ถ้าบินกลางวันก็บวกเพิ่มไปอีกหนึ่งวันเป็น 8 วัน เก็บ 1 วันไปดูแพนด้า 1 วันนั่งรถไปจิ่วไจ้โกว 2 วันเที่ยวจิ่วไจ้โกว 1 วันเที่ยวฮวงหลง 1 วันกลับมาเฉิงตู และอีก 1 วันบินกลับ (ถ้าจะตัดฮวงหลงออก หรือลดเวลาในจิ่วไจ้โกวก็เหลือ 6 วันได้)
.
ฮวงหลงคืออะไร เอาง่ายๆคือที่เที่ยวที่อยู่ละแวกนั้น เป็นน้ำตกไล่ระดับชั้นลงมา ความใหญ่อลังการไม่เท่าจิ่วไจ้โกว และเดินเหนื่อยกว่า จิ่วไจ้โกวถ้าไม่อะไรมาก ลงรถเข้าถึงเกือบหมดทุกจุดไฮไลท์ เดินไม่ไกลมาก แต่ฮวงหลงมีกระเช้าให้ขึ้น แต่!!! ทางเดินจากกระเช้าไปจุดท่องเที่ยว 2 กิโลเมตรขร่ะ จากจุดท่องเที่ยว เดินลง 3 กิโลเมตร หรือจะเดินกลับไปขึ้นกระเช้าก็ได้ อีก 2 กิโลเมตร คือเผื่อไว้อย่างต่ำๆ เดิน 4 กิโลเมตรแน่นอนไม่มีน้อยกว่านี้ ถ้าไม่ใช่สายเดิน อาจจะผ่านที่นี้ก็ได้
.
จิ่วไจ้โกวควรเข้ากี่วันดี??
ถ้าอยากเก็บแบบละเมียดละไม ใช้เวลาเรื่อยเปื่อยควรเข้าสองวัน แต่ถ้าเร่งรีบ ไม่เวิ่นเว้อ อยากประหยัด วันเดียววางแผนดีๆก็เก็บครบละ แต่อาจจะต้องยอมย้อนแสง หน้ามืดบ้าง แสงจ้าบ้างไปบางส่วน แต่ก็จะเซฟเงินไปได้เยอะพอควร เพราะค่าเข้าจิ่วไจ้โกวแพงมาก ประมาณ 310 หยวน (ราวๆ 1,500++ บาทต่อครั้งเลยทีเดียว) ซึ่งค่าเข้านี้จะรวมค่ารถบัสจากทางเข้าไปข้างในด้วย ล้มเลิกความคิดที่จะเดินเข้าไปได้เลย เพราะมันไกลมากกกกก ถ้าจะเดินไปให้ถึงจุดไฮไลท์ นั่งรถนี่ยังเพลินๆ งีบไปเบาๆได้ เอาเวลากับแรงไปเดินเก็บตรงจุดอื่นดีกว่า ไม่นับว่าต้องไฟ้ว์กับพี่จีนอีกขนาดไหน(ดูปริมาณคนฝั่นนั้นสิพี่ชายยยย)เดี๋ยวจะมาเขียนเพิ่มว่าควรไปตรงไหนก่อนหลังยังไงบ้างอีกที