มีโอกาสได้ไปดูละคอนถาปัดอีกครั้งหลังจาก ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้เชอร์ล็อกเมื่อปี 57 นิดหน่อยด้วย ที่ทำให้เราได้ความรู้สึกเหนือคาดมาก ไม่รู้สึกเฟลกับละคอนถาปัดมาก หลังจากโดนมู่หลานย่ำยีขยี้เละเทะ (ของปี58 ไม่เห็นรู้เรื่องเลย…ก็ข้ามไปละกัน)
ปีนี้เราก็ไปดู(เช่นเคย ถ้ารู้เรื่องและมีโอกาส) อย่างแรกเราประทับใจเทคโนโลยีของน้องๆมาก ตอนนี้สามารถซื้อบัตรทางเล็บได้แล้ว!!! สุดยอด สบายดีกว่าการต้องไปนั่งซื้อตามสยามเยอะมาก จ่ายเงินก็ง่าย สะดวกสบาย (แม้การรับบัตรจะมึนๆงงๆไปบ้าง แต่เป้นเรื่องเล็กน้อยมาก) คิดว่าถ้าโปรโมทดีๆ กับเด็กน้อย หรือกลุ่มคนดูละครเวที (สายดูไปเรื่อยเปื่อย ไม่เน้นฟอร์มยักษ์อย่างเดียว) น่าจะขายได้ง่ายขึ้นนะ
ปีนี้น้องๆเอานิยายชั้นครูอย่างทวิภพมาทำ ข้อดี คือคนส่วนใหญ่รู้เรื่องอยู่แล้ว (รีเมคกันกี่รอบแล้ว พูด!) เรื่องของผู้หญิงข้ามกระจกไปพบรักในอดีต ซึ่งก็ช่วยชีวิตน้องๆในการเขียนบทไปได้มาก มีโครงมาให้แล้ว ไม่ต้องเอามาผูกเรื่องเอง ซึ่งลดความเสี่ยงที่จะผูกเรื่องไม่ดีพอ ขาดๆเกินๆ ให้คนงงๆไปได้ เพราะเด็กมือใหม่ทำละครครั้งแรก ใช่จะเป๊ะสมบูรณ์ได้เลย
ความยากของบทละคอนถาปัดปีนี้ก็น่าจะอยู่ที่การตีความเติมรายละเอียดให้เนื้อเรื่อง ตัวละคร การเล่าเรื่อง (และมุกตลกด้วย) ซึ่งเราว่าไม่แย่นะ รวมๆดูสนุกเพลินมาก เพียงแต่เราว่ายังทำได้ไม่ดีพอ (อาจจะพอมีระดับการคาดหวังเล็กๆด้วย ว่าน่าจะก้าวไปได้ไกลกว่านี้) พัฒนาการอารมณ์ นิสัยตัวละคร ซึ่งก็ไม่ได้เป็นแค่ตัวละคร เพราะบางอย่างในเรื่องก็มาๆหายๆ และความต่อเนื่องก็กระโดดมาก ไม่ได้แย่นะ แค่ดูแล้วไม่เพลินมาก (ยิ่งโดยเฉพาะตอนจบ…)
การเล่าเรื่อง บางส่วนก็ยืดเยื้อโดยไม่จำเป็น อย่างฉากงานวันเกิด (คือถ้าบทจะโยนนิสัยนางเอกทิ้งไปในอีกสองฉากจากนั้นก็ไม่ต้องเสียเวลาขนาดนี้ก็ได้) แต่บางฉากก็ให้เวลากับมันได้ดี แต่ทำไมความรู้สึกตองเข้างองก์สองนี่ทุกอย่างดูตัดฉับเหมือนกลัวเล่นเกินเวลายังไงไม่รู้ โดยเฉพาะตอนจบ ถ้าจะตัดจบแบบนั้นแล้ว ควรให้เวลากับแต่ละตัวละครอีกนิด ไม่ใช่เหมือนตัดฉับไปเลย (ไม่รู้ตั้งใจหรือเปล่า แต่ถ้าตั้งใจก็ไม่เวิร์ค เพราะมันงงมากกว่าจะสะเทือนใจในชะตากรรมละนะ) จริงๆทุกอย่างเริ่มตั้งแต่ตอนนางเอกคุยกับพ่อแล้ว คือมันไม่ได้เหมือนปรับความเข้าใจแต่เป็น “ความพยายาม” แสดงให้รู้ว่า พ่อลูกคืนดีกันละนะ คือบางฉากก็ออกมาอย่างที่ทำให้รู้สึกว่า เออใส่มาให้รู้นะ ว่าตัวละครทำอย่างนี้ รู้สึกอย่างนี้
สิ่งที่เราเสียดายที่สุดคือ การเล่าเรื่องแบบเสียงในใจนางเอก คือมันดีมาก และอยู่ๆมันก็หายไปแบบไม่มีเหตุผล อาจจะไม่อยากเล่นมุกซ้ำ แต่ก็เอามาเล่าความรู้สึกมุมอื่นๆของนางเอกก็ได้นะ ไม่ใช่ตัดทิ้ง โยนออกไปเหมือนเป็นมุกตลอกมุกนึง เราว่าไม่ใช่อะ มันเหมือนเป็นบุคลิคของนางเอกมากกว่า เอามาใช้ประโยชน์เล่านิสัยได้ดีกว่าทิ้งหายไปเฉยๆ ขนาดกรอบประตูลมยังเล่นได้เรื่อยๆเลย
ตัวละครที่เรารู้สึกน่าจะทำได้ดีกว่านี้ (ไม่ใช่นักแสดงแสดงไม่ดีนะ แต่คาแรกเตอร์มันน่าจะดีกว่านี้) คือ เมนี่ย์ สาวติดโซเชียล เน้นแต่ตัวเองเป็นหลัก และอยู่ๆ กลางเรื่องสักพัก ก็เลิกสนใจมือถือไปซะงั้น……เหมือนอยู่ๆ มือถือก็หายไปจากการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนางเอกเลยทีเดียว ทั้งที่ตอนแรกเหมือนเป็นอวัยวะส่วนที่33 ไม่มีอาการโหยหามือถือสักนิด ทั้งๆที่เมื่อก่อนสนใจแต่มือถือไม่สนใจคนรอบข้าง มันประหลาดเกินไปที่อยู่ๆก็หมดความสนใจในมือถือ จะว่าเพราะฉากในตลาดที่ทำให้วุ่นวาย มันก็ยังทำออกมาได้ไม่ดีพอว่าเป็นจุดกระตุ้นให้เมนี่ย์รู้สึกว่า”ควรแคร์คนอื่นให้มากขึ้น” ดูแล้วแค่รู้สึกว่าเมนี่ย์น่าจะรู้สึกแค่ “สนใจตัวเองให้น้อยลง” เราว่ามันมีความต่างกันอยู่ ระหว่างการก้าวข้ามในการลดความสนใจตัวเองไปสู่ สนใจคนอื่นมากขึ้น จะว่าเลิกสนใจเพราะเจอคุณหลวง ก็ต้องบอกว่าทำได้ไม่ดีเลย ไม่รู้สึกเลย ส่วนที่เหลือก็ไม่รู้สึกอะไรกับพัฒนาการของตัวละครนี้เลย
น้องชายนางเอก ที่อยู่ๆก็เลิกสนใจเกมมือถือที่ติดมากกกกกกกกกก ก็เลิกสนใจในองค์ที่สองอย่างไม่มีสาเหตุ คือถ้าใส่รายละเอียด ของครอบครัว ที่ให้สนใจคนตรงหน้าก่อนจะหายไปและน้องเลิกเล่นมือถือก็พอเข้าใจได้ แต่นี่คือหายไปเลย บทน่าจะมาใส่รายละเอียดตรงนี้มากขึ้นหน่อย แล้วไปลดมุกคาเฟ่ลงก็ยังได้ คือต้องเข้าใจว่ามือถือในเรื่องนี้เปิดตัวกับคนดูเหมือนเป็นอวัยวะที่33 และอยู่ๆเหมือนโดนถอดปลั๊ก หายไปจากเรื่องซะงั้น จริงๆอุตส่าห์เปลี่ยนจากแม่มาเป็นพ่อก็น่าจะเล่นประเด็นเรื่องความเข้าได้ของพ่อและลูกสาวมากกว่านี้ แต่นี่คือแตะบางมาก เข้าใจว่าไม่อยากดราม่า เลยใส่มาบางๆ แต่ตลกทั้งเรื่องก็ไม่ไหว
พูดถึงเรื่องตลกของละคอนถาปัดปีนี้ถือว่าทำได้ดีมากกกกกก ชอบมาก มุกส่วนใหญ่ร้อยละ80 ฮา อัตราการแป๊กต่ำ หรืออาจจะเพราะเราเลยวัยจะฮามุกแบบนี้ไปแล้ว แต่โดยรวมๆมุกตลกคือดีงามมาก มาตามมาตรฐานอยู่แล้ว แล้วเนียนมากไม่มีการยัดเยียด หรือมีความเป็นตลกคั่นเวลาอีกแล้ว บวกคะแนนพิเศษเพราะลูกคู่มาแบบไม่น่ารำคาญแล้ว มาแบบน่ารัก ช่วยเดินเรื่องด้วย ไม่ใช่มาแบบเล่นตลกคาเฟ่แบบสมัยก่อน และขอชมมุกหวายเป็นพิเศษ เราชอบมาก ฮามากจริงๆ คะแนนเต็มห้าให้ห้า
คะแนนพิเศษคือกลุ่มหิ่งห้อยของหลวงเทพ น่ารักมาก บวกสิบคะแนน ให้กลุ่มหิ่งห้อย
นักแสดง…เราดูรอบที่แปด เล่นมาหลายรอบแล้ว นักแสดงไม่มีอาการเกร็งเลย ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ถือว่าทำได้ดีมาก คะแนนพิเศษให้แม่หลวงเทพ +1ฉากไหว้แม่มณีเพราะคิดว่าเป็นคุณหญิงลักษณ์ และ+10ให้ฉากหวาย ไม่มีเหตุผล แค่ชอบมาก +20ให้จันทร์คนติดตามพระเอกตลกธรรมชาติมาก
ฉาก…เสน่ห์อย่างนึงที่เคยมีของละคอนถาปัด คือฉากหลังที่สวยงามอลังการ (แต่ส่วนมากไร้ประโยชน์) และเล่นกับฉากข้างๆ แต่ปีนี้ไม่มีแล้ว เลือกใช้ฉากเลื่อนไปมาเหมือนปีของเชอร์ล็อคแทน ซึ่งถามว่าเราคิดถึงฉากสวยๆอลังแบบในมู่หลานไหม ก็นิดหน่อยนะ เพราะฉากข้างๆ ของปีนี้ง่อยมาก บ้านนางเอกดูไม่เหมือนคนรวยเลย เหมือนเป็นห้องแถวในชุมชนมากกว่าคอนโดหรู แต่เราก็ยังชอบฉากมีประโยชน์แบบนี้มากกว่า สรุปว่าดีละกัน
(บ้านนางเอกคือด้านขวาของรูป)
แสงสี…ปีนี้คือเราว่าดีมาก มาเต็มมาก เป็นส่วนที่ดีมากที่สุดเลย เพราะทำออกมาได้สวยงามดีมาก ดูมีลูกล่นรายละเอียดมากกว่าที่เคย ปีนี้ทำออกมาดีมาก ฉากทะลุกระจกก็ดีนะ ดีกว่าที่คิดไปเยอะเลย เอาแสงสีมาช่วยนำเสนอได้สวยงามดี ใช้เทคนิคเดียวกับรัชดาลัยเลย (เอาไฟสาดใส่หน้า555) ที่ชอบมากที่สุดคือเอาแสงสี มาช่วยในการเล่าเรื่อง เช่นตอนเลื่อยกรีดกระจกแล้วเปิดไฟเป็นรอบกรีด เห้ยคือดีมากกกกกกกกกชอบบบบบ Best Scene
ต่อมาเรื่องเพลง เสียง… ก็ดีเท่าที่จะทำได้เต็มที่ละนะ แต่งงมากว่าในซีดีจะมีเพลงอะไร ในเมื่อทั้งเรื่องแทบจะไม่ร้องเพลงเลย
สูจิบัตร…ตามสไตล์ละนะ โนคอมเม้นท์ ณ จุดนี้
เอาจริง เขียนมายาวขนาดนี้ไม่ได้จะด่าอะไรเลยนะ แต่เขียนเผื่อปีหน้าจะปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้นไป เราก็อยากเห็นละคอนถาปัดก้าวไปไกลกว่าละครเวทีนักศึกษาธรรมดา เราเข้าใจว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่มันจำกัด แต่หลายๆอย่างมันก็เปิดกว้างให้ลองทำได้ สำหรับเรา ณ จุดนี้ ละคอนถาปัดก็เหมือนน้องที่น่าเอ็นดูไปแล้ว เราไปดูด้วยความเอ็นดูและไม่คาดหวัง อะไรที่น่าจะดีขึ้นได้ก็บอกเฉยๆ เผื่อมันจะดีขึ้น ไม่ทำก็ไม่เป็นไร