ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเมื่อเราดูต่อกัน กลับกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก
เราอยู่ในโลกที่หมุนด้วยเงิน หาเงินมากมาย แต่เงินมากมายแค่ไหนก็ทำได้แค่ซื้อชีวิตที่ดีให้เรา แต่ไม่ได้ทำให้เราใช้ชีวิต และถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยไม่ได้เป็นส่วนหนึ่ง และถูกลืมเลือน ก็ไม่อาจเรียกว่ามีชีวิตอยู่ได้เต็มปากนัก
ใน Money Monster เราได้เห็นว่าเงินมีพลังผลักดันให้คนเราทำหลายๆสิ่ง และหลายๆสิ่งนั้นก็เกินระดับความยับยั้งชั่งใจของคนปกติไปมาก เราได้เห็นว่าระดับความยับยั้งชั่งใจในการกระทำของเรา ลดลงสวนทางกับขนาดของเงินที่มาเกี่ยวข้อง เพราะเราอยู่ในโลกที่เงินเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต…โลกที่ถ้าเราอยากมีชีวิตที่ดี เราต้องมีเงินให้มาก หาเงินให้เยอะ
แต่ใน Me Before you แสดงให้เราเห็นว่า ในโลกที่เงินไม่ใช่ปัญหาของการมีชีวิต แต่ปัญหากลับอยู่ที่การ”ใช้”ชีวิตที่มีอยู่นั้นอย่างไร เพราะวิล เทรย์เนอร์ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าการมีชีวิตที่ดีกับการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่นั้น คือคนละความหมายกัน…การไม่ได้ใช้ชีวิต อาจจะไม่มีค่าพอต่อการเลือกมีชีวิตอยู่
ในขณะที่ If Cats Disappear from the world กลับแสดงให้เราได้เห็นว่าเมื่อความตายก้าวเข้ามา คนคนนึงจะยอมเสียอะไรมากมายขนาดไหนเพื่อจะยืดชีวิต ให้อยู่ต่อได้อีกเพียงหนึ่งวัน แต่สุดท้ายแล้ว การมีชีวิตที่ยังลืมตาตื่นขึ้นมาได้ อาจจะเรียกว่า มีชีวิตได้ไม่เต็มปาก เรามีชีวิตเพราะเราโลดแล่นเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในความทรงจำของใครบางคน แต่ถ้าเราถูกลืมเลือนไปหายไป ก็อาจจจะเรียกว่ามีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่เตมปากนัก…บางทีการมีชีวิตก็อาจจะมีความหมายมากไปกว่าการตื่นมามีลมหายใจไปอีกหนึ่งวัน