Self/Less หนังค้นหาตัวเอง หมายถึงตัวหนังเองก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ต้องค้นหาตัวเองเหมือนกัน หนังเล่าเรื่องเกี่บวกับมหาเศรษฐีที่ป่วยใกล้จะตายแล้ว และได้ค้นพบวิทยาการการย้ายจิต (หรืออะไรสักอย่าง) ย้ายตัวเองไปสู่คนหนุ่มกว่า และเริ่มดำเนินชีวิตใหม่ จนกระทั่งเจ้าของร่างเริ่มระลึกตัวเองได้ พล็อตเรื่องเป็นอะไรที่น่าสนใจไหม ก็น่าสนใจ แต่หนังทำออกมาได้…ไม่น่าสนใจเอาซะเลย มันเป็นหนังที่พยายามตั้งอยู่บนความเป็นจริง แต่ทุกอย่างในเรื่องนั้นหลุดไกลความเป็นจริงไปมาก แม้จะมองข้ามเรื่องการย้ายจิตย้ายร่างไป เพราะมันเป็นแก่นหลักของเรื่อง แต่หลักการอื่นๆของเรื่องนี้ก็ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่เลย เพราะย้ายจิตไปได้ ต้องกินยาต่อเนื่องเพื่อให้ตัวตนเก่าหายไปตลอดกาล และเมื่อไม่กินคนที่ย้ายจิตไปนั้นจะหายไปแทน ถือว่ามีเหตุมีผลในตัวของมันเองใช้ได้ แต่ที่เหลือหลังจากนั้นคือความงง…
Month: September 2015
อย่างหนึ่งที่รู้สึกอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่มาอยู่เกาะ คือ พนักงานตามร้านต่างๆ ที่นี่ ทำงานแบบอยู่บนเส้นแบ่งของคำว่าสโลว์ไลฟ์กับเอื่อยเฉื่อยมาก เป็นบรรยากาศการให้บริการที่จะไม่มีวันพบเห็นได้ที่กรุงเทพเลย บรรยากาศที่ถามเรื่องโปรโมชั่นแล้วพนักงานมารุมล้อมเราทีสามสี่คน ไม่ใช่มารุมขายนะ มารุมช่วยกันอธิบาย (แถมแม่งไปคนละทางอีก) สรุปทั้งร้านแทบไม่มีคนรู้เรื่องโปรโมชั่นที่ส่วนกลางออกมาเลย ถามไปตอบงง ถามอีกทีตอบคนละอย่าง มานั่งคิดๆดูไม่รู้ว่าเพราะมันเป็นวิถีที่ชิวๆสบายๆ เรื่อยๆที่คนที่นี่ชิน หรือว่าเพราะการแข่งขันในการหางานมันไม่สูงก็ไม่แน่ใจ คือมันไม่ได้มีงานมากมายเหมือนในกรุงเทพ ที่นี่มีแค่งานโรงแรม ร้านอาหาร ร้านเล็กน้อย และงานขายในศูนย์การค้า ไม่นับพวกงานเฉพาะทางแบบหมอ ครูอะไรทำนองนี้นะ เพราะตลาดงานมันไม่ได้กว้างหรือป่าว คนที่ปักหลักเลยอาจจะไม่ขวนขวาย หรือทะเยอทะยาน งานบริการเลยออกมาเฉื่อยๆ คือทำแค่นี้ก็อยู๋ได้แล้ว ทำมากกว่านี้ก็อยู่แบบเดิมอยู่ดี หรือก็เปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ เพราะเจอพยักงานที่ดูงงๆในงานที่ตัวเองทำอยู่เนืองๆ (ถึงขนาดเคยต้องอธิบายเรื่องบัตรM-Gen ให้พนักงานเมเจอร์ฟังมาแล้ว) จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี ทำงานไม่มีความกดดันนะ แต่คนรับบริการกดดันมากเหมือนไปสร้างความลำบากให้พนักงานเลย ลูกค้าก็เลยสโลว์ไลฟ์ตามไปเลย…! ใครเครียดและรู้สึกกดดันจากงานที่กรุงเทพ ลองหางานบนเกาะสมุยดูนะ….
Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ หนังที่ตั้งใจธรรมดา ได้มีโอกาสไปดูหลังจากฟีดแบคหลายๆแห่ง เริ่มออกมาว่า อาร์ตว่ะ หนังแนว ไม่ใช่แบบGTH ซึ่งทำให้เราแป่วๆไประดับนึง ด้วยความที่ไม่เคยดูงานของผู้กำกับคนนี้ แต่เป็นผู้กำกับขวัญใจเด็กแนว ติสท์ ซึ่งนั่นคือเรื่องที่ทำให้เรากังวลระดับนึงก่อนไปดู ว่าแม่งจะรู้เรื่องป่าววะ (ไม่กังวลในระดับเดียวกับที่ได้ยินชื่อเป็นเอก รัตนเรือง แต่ให้ความรู้สึกกังวลแบบนั้น อารมณ์ระยะเริ่มแรก) แต่พอไปดูแล้ว ปรากฎว่า เราชอบอะ! ถ้านับในแง่ความบันเทิงของการเป็นหนังแล้ว มันคงจะธรรมดามาก ไม่ได้สุขสมแฮปปี้ ฟรุ้งฟริ้ง มีเหตุการณ์บังเอิญ หวานแหวว แบบนิยาย หรืออะไรเลย มันธรรมดา เดินเรื่องเรียบๆ เรื่อยๆ ไปจนจบ แต่เรากลับชอบตรงที่มันธรรมดานี่แหละ มันดูจับต้องได้ เข้าถึงได้ แบบคนธรรมดาทั่วๆไป พระเอกนางเอกคนธรรมดา ดำเนินชีวิตแบบธรรมดา มันธรรมดาจนเรารู้สึกว่ามันใกล้ตัวมากๆ เป็นเรื่องที่อาจจะเกิดกับใครก็ได้ ในแง่มุมไหนก็ได้ ขนาดธรรมดาเรื่อยๆ แต่เราดูแล้ว รู้สึกว่ามันมีอะไรหลายอย่างมากเลย
เราค่อนข้างเชื่อนะว่าการดูวิถีชีวิตคนแต่ละท้องที่ เราสามารถเช็คง่ายๆได้ในร้านหนังสือนะ เหมือนที่เค้าบอกว่าถ้าอยากดูวัฒนธรรมความคิดคนชาติไหน ให้ดูพาดหัวหนังสือพิมพ์ชาตินั้น . ขณะที่กรุงเทพ ของแพงค่าครองชีพสูง การแข่งขันสูง เมืองแห่งโอกาส(จริงๆ มาอยู่ต่างจังหวัดแปปเดียวสัมผัสได้เลย มีโอกาสจะมาต่อเรื่องนี้) มีความกดดันอยู่ลึกๆให้รวย จะได้อยู่สบายๆในเมืองที่แหลมหน้าออกนอกบ้านแบงค์ร้อยก็ปลิวว่อน หนังสือยอดฮิตแน่นอน หนังสือเสริมสร้างความร่ำรวย ชี้ช่องรวย รวยด้วยหุ้น รวยง่าย รวยเร็ว ดูดวง . พอมาอยู่เกาะ หนังสือขายดีอันดับ1-10ยกแผงกวาดทั้งชั้นคือ…..หนังสือปลูกผัก ทำเกษตร