The Great Beauty ความงามที่สุดแท้แต่…..จะยากหยั่งถึง
ถ้าจะถามว่าความงามอะไรที่ยากจะหยั่งถึง ตอนนี้คงต้องตอบว่า ก็ The Great Beauty Le Grande Bellezza นี่แหละ หนังอิตาลีดีกรีภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ ที่เอากลับมาฉายอีกรอบ (และเก็บเงินด้วย!) ในเทศกาลภาพยนตร์อิตาลี ที่อ็องกั๊กติเย่ร์ ซีเนอาร์ต
ถ้าจะให้บอกว่า ความงามที่อยากจะหยั่งถึงเป็นชื่อแปลของหนังเรื่องนี้ ก็คงเป็นชื่อไทยที่เหมาะมาก เพราะหนังสองชั่วโมงครึ่ง กรุเข้าไม่ถึงเลยสักนิดเดียว หนังอะไรคะเนี่ยยยยยย พี่จะสื่ออะไรให้อิชั้นดูเนี่ย
สรุปคร่าวๆว่าหนังเล่าเกี่ยวกับชีวิตของนักเขียนไฮโซของอิตาลี ที่ใช้ชีวิตที่หลายคนคงอิจฉา ปาร์ตี้ รวยๆไปวันๆ ตื่นกลางคืนนอนกลางวัน ที่หมดไฟในการเขียนหนังสือ เพราะรอค้นหาความงามที่แท้จริง ซึ่งวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ก็ไม่ได้ดจุดไฟในชีวิตให้ฮีเท่าไหร่ (แต่ก็ยังทำเหมือนเดิม) เรื่องเริ่มหลังจากงานปาร์ตี้วันเกิดอายุ65ปี แล้วหลังจากนั้นฮีก็เริ่มไปพบเจอคนอื่นๆ เพื่อนเก่ามั่ง เรื่องราวของแฟนเก่ามั่ง และก็พบการจากลา การตาย บลาๆ…..นี่คือเท่าที่จับใจความได้ (ส่วนที่จับใจความไม่ได้ก็มีอีก…เพียบ)
เหมือนหนังจะสื่อเรื่องสัจธรรมของชีวิต การพบ ลา จาก และมีภาพฝันภาพหลอน (ทีมงานใช้คำอธิบายว่า Illusion ตอนแรกเราก็นึกไปแบบ Beautiful Mind เลย แต่ปรากฎไม่ใช่!!) คงเป็นภาพหลอนที่ติดในวิถีชีวิตแบบปาร์ตี้ของตัวเอกมั้ง อารมณ์แบบขนาดอายุ65แล้วก็ยังใช้ชีวิตแบบเดิมๆ (มั้งนะ เดา)
สำหรับหนังเรื่องนี้ ตัวละครในเรื่องนั้น เป็นลุงๆป้าๆ เกือบทั้งเรื่องเลยทีเดียว มีระดับปู่ย่าตยายมาด้วย สิ่งที่ตกใจคือฉากที่ตัดเข้ามาปาร์ตี้วันเกิด และเราเห็นป้าอายุ40 กรี๊ดดดดดด กรีดร้องอย่างสุดเหวี่ยงมาก สารภาพว่าไม่ได้เผื่อใจจะมาเจอคนวันขนาดนี้ในงานปาร์ตี้ ตกใจมาก แต่พอดูไปเรื่อยๆก็เออ ทั้งเรื่อง เป็นกันทุกคน หนังอิตาลีก็มีเต้นด้วย ฉากที่เต้นประจันหน้ากันชายหญิงนี่นึกถึงหนังอินเดียเบาๆ
ส่วนบทก็…..คงดีหล่ะมั้ง ได้รางวัลมาเลยนิ เราอาจจะเข้าไม่ถึงเองก็ได้ ตอนดูได้แต่อุทานในใจว่าอะไรวะ อะไรวะ อะไรวะเนี่ยยย แต่ฝรั่งในโรงรอบๆก็ดูอิน(ปะวะ) ดูตั้งใจดูกัน แต่สำหรับเรามันน่าเบื่อมากกก คือมันอาจจะแฝงการตีความขั้นสูงไว้ก็เป็นได้ ส่วนนักแสดงนั้น สารภาพเลยว่าหน้าพี่เหมือนกันมากกกกแยกไม่ออกเลยทีเดียว กว่าจะมาแยกว่าใครเป็นใครยังไงได้ หนังก็ผ่านมาเนิ่นนานพอดู คือหนังมันก็ทำมายืดยาดอยู่ระดับนึงล่ะนะ
สรุปโดยรวมเป็นที่เราเองดูไม่รู้เรื่อง จำหน้านักแสดงไม่ได้ ทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาเป็นหนังที่น่าเบื่อมากไปเลย แต่สิ่งที่ดีงามของเรื่องนี้คือภาพสวยใช้ได้ อาจจะเพราะโรมเองก็เป็นประเทศที่สวยอยู่แล้วด้วย ต้นทุนมันมาดีอ่ะนะ
เรทความน่าดู ข้ามเลยเหอะ ออสการ์ก็อาจจะไม่ได้ตรงจริตเราเสมอไป แต่ถ้าชอบหนังตีความก็แนะนำอย่างแรงกล้าเลย แล้วมาอธิบายให้ฟังด้วยนะ อยากเข้าใจสารที่ผู้กำกับจะสื่อมาก บอกเลย!