ภาพยนตร์สารคดี ว่าด้วยเรื่องราวการทำความรู้จักกับช่างภาพลึกลับ Vivian Maier ผ่านผลงานของเธอ หนังเล่าเรื่องตามช่วงเวลาต่างในชีวิตเธอ โดยใช้ภาพถ่ายผลงานของเธอผสมไปกับคำบอกเล่าของคนที่รู้จักเธอในช่วงนั้นๆ หนังไม่น่าเบื่อนะ เล่าเรื่องหลายมุมและลำดับเวลาก็ไม่งง ได้ดูภาพสวยๆ ได้รุ้จักคนคนนึง ถือว่าคุ้มอยู่นะกับค่าตั๋วเรื่องนี้ ถ้าเป็นคนชอบดูรูปถ่าย ได้ไปดูหลายๆผลงานของเธอในหนังก็คุ้มอย่นะ ถ้าเป็นคอหนังก็พอดูได้ไม่น่าเบื่อนะ อาจจะไม่มีดราม่าพีคอะไร แต่ชีวิตของเธอเองก็มีมิติและลึกมากที่จะทำให้น่าสนใจด้วยเช่นกัน
เรื่องทั้งหมดเริ่มจากการที่ลังฟิล์มของเธอถูกประมูลได้ และเมื่อดูภาพเหล่านั้นผู้ประมูลได้ก็ได้พบกับงานระดับเทพ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ซึ่งทั้งหมดได้จุดความสงสัยให้แก่เค้าว่าทำไมงานพวกนี้ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนเลย ดังนั้นเค้าจึงเริ่มค้นหาเธอ และพบว่าเธอเพิ่งเสียชีวิตไป แต่มีเช่าที่เก็บของเอาไว้ ดังนั้นเค้าจึงเริ่มค้นหาเรื่องราวในช่วงชีวิตของเธอ ผ่านทั้งภาพถ่ายผลงานของเธอและคนรอบตัวเธอที่รู้จักเธอในแต่ละช่วงเวลา
เรารู้ว่าเธอเป็น ช่างภาพ แม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็ก เธอมีสำเนียงหรือลักษณะเหมือนชาวยุโรปอพยพ ทั้งที่เธอเองเกิดในนิวยอร์ค แต่มีแม่เป็นชาวฝรั่งเศส เรารู้ว่าครอบครัวเธอไม่สมบูรณืนัก พ่อและแม่แยกทางกันเธออาศัยอยู่กับแม่ แต่ทั้งครอบครัวมีลักษณะที่เก็บชีวิตเป็นความลับมากๆ พวกเขาไม่ติดต่อกัน ขนาดญาติคนสุดท้ายของเธอยังยกมรดกให้กับเพื่อนแทนที่จะเป็นหลานสาว
เธอเป็นคนใส่ใจรายละเอียดและมีมุมมองต่อสิ่งรอบตัวอย่างอ่อนโยน และสะท้อนความจริง เข้าใจชีวิต ซึ่งสะท้อนออกมาในภาพถ่ายของเธอ เธอชอบสะสมสิ่งของปริมาณมหาศาล เหมือนทุกอย่างมีความหมายในชีวิตเธอ เธอมีวิธีคิดของตัวเอง เธอมีจุดยืน เป้าหมาย แผนการที่จะทำในสิ่งต่างๆอยู่ในหัว และเธอมีท่าเดินอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง
เธอใช้ชีวิตวิ่งตามความฝันและความปรารถนา ซึ่งงานพี่เลี้ยงคือสิ่งที่ช่วยตอบโจทย์เธอตรงนี้มีที่พักมีเวลางานไม่หนัก เมื่อดูจากปริมาณภาพขนาดนี้ เธอต้องถ่ายทุกวันตลอดเวลาเลยก็ว่าได้
แต่เธอเองก็มีมุมเหงาและต้องการครอบครัวหรือความเป็นส่วนหนึ่ง เธอไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก และยังมีอารมณ์รุนแรงด้วยเช่นกัน และรักษาความเป็นส่วนตัวมากถึงมากที่สุด เธอชอบปิดบังตัวตนของเธอ คนจะรู้จักเธอเท่าที่อยากให้รู้จักเธอสะสมหลายเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุของการเก็บตัวและสไตล์การแต่งตัวที่ปกคลุมปิดบังของเธอก็ได้มั้ง
แต่ในท้ายที่สุดแล้วเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเธอทำไปทำไม อะไรอยู่เบื้องหลังเหตุผลในการกระทำของเธอ แต่อย่างนึงคือความปรารถนาที่เธอต้องการเผยแพร่งานของเธอก็ได้รับการตอบสนอง
กลับมานั่งคิดก็ยังนึกไม่ออกจะเขียนอะไร แต่มันมีอะไรบางอย่างในตัวของผู้หญิงคนนี้ที่ทำให้เราสนใจ อะไรบางอย่างที่มันดูไม่เป็นธรรมดาทั่วไปของสังคมที่เธอแปลกไปกว่าปกติ คือหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดูจบแล้วติดอยู่ในห้วงคิดมาก ไม่ได้คิดตีความหรือสื่อสัญลักษณ์อะไรเลยนะ แต่เหมือนมันติดบางอย่างอยู่ในหัว รู้สึกว่าเข้าใจในบางการกระทำของเธอนะ เพราะเราเองก็เป็นคนแบบนั้นเหมือนกันในหลายๆจุด มันเลยคล้ายๆดูตัวเองเวอร์ชั่นขั้นสุดยังไงไม่รู้ ยังไม่นับว่าภาพถ่ายที่นำมาประกอบหนังคือสวยงามและทรงพลังมากๆ
หนังจะพาเราไปสัมผัส ไปย้อนเวลาไปรู้จักชีวิตเธอ ณ ช่วงเวลาต่างๆ และเพราะหนังไม่มีตัวจริงมานั่งอธิบายความรู้สึก ณ ช่วงเวลานั้นแล้ว มันจึงเป็นจินตนาการของเราเต็มที่ที่จะได้ทำความรู้จักผู้หญิงคนนี้ในแง่มุมต่างๆที่หนังนำเสนอ ได้ลองจินตนาการ ลองเข้าใจ หรือจะไม่เข้าใจในการกระทำของเธอเลยก็ว่าได้ แต่สุดท้ายดูจบแล้วอยากบอกว่า “ยินดีที่ได้รู้จักวิเวียนนะ เราน่าจะได้เจอกันเร็วกว่านี้ มุมมองการถ่ายภาพและฝีมือคุณสุดยอดมาก”
ปล.สิ่งที่ชอบที่สุดในเรื่องนี้คือภาพถ่ายที่กลายเป็นความทรงจำ ณ ชั่วเวลานั้นได้จริงๆ เพราะหลายครั้งเวลาตัวเองดูรูป เราไม่ได้ดูอะไรเลย แต่มันทำให้นึกึงเวลาที่เรา”อยู่”ตรงนั้นมากกว่า มันคือเพนซีฟที่เป็นกระดาษนี่เอง