Crusader Kings 2 เกมวางแผนครอบครัวยุคกลาง

Crusader Kings2 เป็นเกมแนววางแผนครอบครัว (ใช่ซะที่ไหนเล่า) เกมแนวGrand Strategy เกี่ยวกับการวางแผนสร้างตระกูลของเราให้เกรียงไกรขึ้นมาในยุคอดีต เราจะเริ่มจากการเป็นขุนนางตัวเล็กๆ หรือเป็นกษัตริย์ของอาณาจักร ที่ต้องการขยายอาณาเขตออกไปก็ได้ เราเลือกเล่นได้ว่าจะขยายอำนาจด้วยการปั๊มทหารไปฟัดกับอาณาจักรอื่น หรือจะส่งลูกหลานเราไปเกี่ยวดองหาพันธมิตร แล้วก็อาศัยจังหวะเคลมเอาก็ได้ เกมจะให้เราเล่นเป็นตัวละครแล้วเราจะต้องจัดการบริหารความสัมพันธ์ของตัวละครนั้นกับตัวละครอื่นๆ โดยจะมีเหตุการณ์ต่างๆป็อปอัพขึ้นมาให้เราตัดสินใจ ซึ่งจะส่งผลกับเราต่อไปเช่นกัน เช่นมีผลต่อค่าความสัมพันธ์ มีผลต่อแสตตของตัวละครของเรา มีผลต่อนิสัยบางอย่างของเรา และอีกมากมายหลายหลาก เน้นหลักๆคงเป็นเกมการทูตและการจัดการความสัมพันธ์ เป็นอีกเกมดูดวิญญาณเช่นเดียวกัน วุ่นวายเสียเวลาเป็นชั่วโมงนี่แหละกับการหาคู่แต่งงานให้ลูกเรา และไหนจะต้องเลี้ยงลูกให้ออกมามีคุณสมบัติและลักษณะนิสัยที่สวยงามอีก เพื่อให้มาเป็นความหวังของครอบครัว มนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของเกมนี้คือ เมื่อเราหวังที่จะปั้นลูกคนใดคนนึงให้ออกมามีคุณสมบัติที่สวยงาม มีนิสัยที่คนนิยมชมชอบ ลูกเรามันจะต้องป่วยตายให้หัวร้อนเสมอ ทิ้งเรากับอาณาจักรที่เราเพียรสร้างไว้กับลูกคนรองที่ไม่ได้เรื่อง และก็ไม่ยอมตายซะที แถมยังต้องวางแผนกำจัดทายาทที่มีสิทธิเคลมบัลลังก์ของเราอีก อะไรจะวุ่นวายขนาดนี้ละเนี่ย ภาพสวยงามอยู่ตามท้องเรื่อง มีรายละเอียดและการใส่ใจทำ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด (เพราะความใส่ใจทั้งหมดนนั้นถูกสอยย่อยออกมาขายอีก…แต่ไม่ได้ซื้อ เล่นแค่ความใส่ใจแบบเบสิกไปก่อน) เป็นเกมที่เน้นตัวอักษรเพียวๆๆเป็นหลัก อ่านเยอะมาก ต้องอ่านทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าคาดหวังการสู้รบบู๊กระจายออาจจะผิดหวัง บู๊สุดก็แค่ตอนยกทัพไปตี ก็กดลากกองทหารไปมา ความน่าเล่น สนุกมากกกก แต่ก็เปลืองเงินมากเช่นกันเพราะภาคเสริมออกมายาวเป็นห่างว่าวเลย กว่าจะไล่เก็บครบหมดก็หมดตัวพอดี ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องซื้อตัวไหนบ้าง เพราะตอนซื้อเกมนี้ครั้งแรกก็กวาดมาหมดทุกตัวเสริม ไม่เคยเล่นแบบขาดตัวเสริมบางตัวไป เลยไม่รู้จริงๆว่ามันต่างกนอย่างไร แต่เป็นเกมที่ซื้อมาเล่นแล้วไม่เสียดายเงินเลย แค่อาจจะหัวร้อนเป็นบางช่วง ตอนลูกคนโปรดเสียชีวิต(อีกแล้ว) …

Don’t starve อย่าปล่อยให้ฉันหิว

เกมอินดี้แนวเอาตัวรอด ด้วยการเก็บของมาคราฟเป็นสิ่งต่างๆ ซึ่งเป้าหมายของเกมมีเพียงอย่างเดียว คือเอาตัวรอดให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เริ่มเกมมา เราจะพบตัวเองฟื้นอยู่ในดินแดนไหนสักแห่ง และเราจะต้องหาวิธีเอาตัวรอดจากความหิวและความมืดมิดในคืนแรกไปให้ได้ อาจจะด้วยการเก็บเบอร์รี่ เก็บกิ่งไม้ หญ้าแห้ง ก้อนหินอะไรก็ตามแต่ที่มีอยู่ในเกม มาทำอุปกรณ์เอาตัวรอด ความยากของเกมนี้ อยู่ที่การวางแผนและจัดลำดับสำคัญ รวมถึงดวงด้วยนิดหน่อย เพราะทุกๆวันที่ผ่านไป นอกจากเราจะเอาชีวิตรอดไปวันๆแล้ว เรายังต้องวางแผนอนาคตด้วย! จะมาอยู่ด้วยการเก็บเบอร์รี่ไปวันๆไม่ได้ เพราะทุกๆวันที่กำลังจะมาถึง เราอาจจะโดนฝูงหมาโจมตี หรือเข้าสู่ฤดูหนาว แค่ทำให้ตัวเองไม่แข็งตายก็ลำบากลำบนแล้ว ไหนจะต้องออกไปหาอาหารตามทางอีกเรื่อยไป ไม่ง่ายเลยทีเดียว เป็นเกมที่ของทุกอย่าง ศัตรูทุกตัวมีความหมาย แมงมุมข้างๆบ้าน ชอบวิ่งมาทำร้ายเราบ้าง แต่เราก็ต้องการใยแมงมุมมาสร้างสิ่งของเช่นกัน การไล่ฆ่าทั้งหมดก็อาจจะไม่ใช่ไอเดียที่ดีมากนัก ต้องวางแผนเยอะว่าวันนึงจะต้องทำอะไรบ้าง เพิ่งจะหัดเล่มาได้สักพัก ความคืบหน้าล่าสุดก็เอาตัวรอดพ้นฤดูหนาวได้และโดนมอนส์เตอร์ตบตายเอาซะงั้น (ซึ่งจริงๆก็แค่เกือบสี่สิบวันเท่านั้นเอง) แต่เพราะความที่เกมนั้นเปิดกว้างให้เราทำได้หลากหลายรูปแบบมากๆ ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่าเราควรจะต้องเล่นอย่างไร มันทำให้เกมนี้สามารถดูดเวลาเราไปได้แบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว อารมณ์แบบเงยหน้ามาอีกที อ้าวเห้ย เย็นแล้ว แล้วนี่ยังเก็บของสร้างแคมป์ไม่เสร็จเลย ภาพและความสวยงาม มีเอกลักษณ์ดี เป็นเกม 2D ให้ตัวละครเดินไปเดินมาบนฉาก ภาพจะออกแนวสีทึมไหนาย แต่เราชอบ บรรยากาศภาพ งานอาร์ตมันเข้ากับเกมดี คืองานออกมาไม่น่าเกลียดเลย ความน่าเล่น จัดอยู่ในหมวดเกมดูดวิญญาณ ถ้าไม่ว่างจริงๆ …

บันทึกประจำวัน #11 ค่าครองชีพแพงจริง

ที่เค้าว่ากันว่าค่าครองชีพสมัยนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ เราก็รู้สึกบ้างเล็กน้อย คือค่อยๆปรับตัวชินกับค่าข้าวที่แพงขึ้นๆ ได้เรื่อย  แต่พอวันนี้ จะเข้าไปซื้อการ์ตูนมาอ่าน โอ้โหหห รู้เลยว่าไม่ได้เข้าร้านการ์ตูนนานมากจริงๆ และค่าครองชีพ ของฟุ่มเฟือยแบบการ์ตูนนี่ขึ้นเร็วกว่าราคาน้ำมันซะอีก  พี่เล่นฟาดไปเล่มละ65แล้วววว ราคารุนแรงเหลือเกิน จำได้ว่าไม่ได้ซื้อมาปีกว่าๆเองนะ แต่ราคาขึ้นพรวดๆแบบนี้ ช็อคไปเบาๆ สมัยก่อนจาก 30 > 35 ก็ใช้เวลาราวๆหนึ่งละ จำได้ว่าตอนไต่ขึ้น 40 บาทต่อเล่มนี่เหนื่อยใจเบาๆ ตอนขยับเป็น 45 บาทยังคิดว่าพอเถอะะะ เจอวันนี้เข้าไป 65 บาท จุกๆกันไป ดีที่เราหลุดวังวนการ์ตูนมาได้ละ เหลือตามต่ออีกสามเรื่อง (ที่ไม่มีทีท่าจะจบซะด้วย) ฮือออออ คาดว่าโคนันเล่มจบ คงจะปิดที่เล่มละร้อยบาทละ

OLA! South Africa

OLA! South Africa ไปแอฟริกาใต้ ไปทำไม เชื่อว่าใครๆก็สงสัย เพราะมันเป็นที่เที่ยวที่ลี้ลับสำหรับคนไทย (ตอนนั้นเมื่อห้าปีก่อน) จริงๆตอนนี้ก็ยังลับๆอยู่นะ แต่ไม่ลี้มากแล้ว ณ เวลานี้ เห็นคนไปมาเยอะขึ้น ตั๋วโปรเยอะขึ้น แต่แย่สุดคือไม่มีบินตรงแล้วนาจา การบินไทยปิดรูทไปแล้ว ทริปนี้เป็นทริปที่อยู่ในความทรงจำเราแน่นมากๆ (คิดดูจะห้าปีแล้ว ยังจำได้อยู่เลย) แต่เขียนตอนนี้ มุมมองก็อาจจะเปลี่ยนไปจากเมื่อห้าปีก่อน ก็เสียดายที่ตอนนั้นไม่ได้เขียนเก็บไว้เท่าไหร่ แต่ที่ไม่เปลี่ยนเลยคือเรารักที่นี่ และยังอยากกลับไปเสมอถ้ามีโอกาส แม้ว่าตอนเราไปจะเรียกว่าเป็น Grand south africaก็ได้ คือไปครบแต่อาจจะไม่ละเอียดมากทุกจุด แบบไม่เผื่อกลับมาอีก แต่สุดท้ายแล้วยังไงๆTable mountain ต้องมีซ่อมแน่ๆ (ขอเคลียร์คิวตอนนี้ที่ยาวล้นไปก่อน) ถามว่าทำไมรัก ทำไมชอบ บอกเหตุผลไม่ได้ แต่ทริปนี้เป็นครั้งแรกสำหรับเราในหลายๆอย่าง ไปเที่ยวต่างประเทศไกลๆเองครั้งแรก ในฐานะผู้ใหญ่ คือเมื่อก่อนมีจ้างโลคอลทัวร์ไปหลายๆที่ แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็ก เราก็ไม่ทำอะไร เก็บกระเป๋าอย่างเดียว แต่คราวนี้ต่างออกไป เราไปในฐานะผู้ใหญ่แล้ว เราต้องจัดการเองทั้งหมด ตั๋ว กำหนดวัน กำหนดที่เที่ยว ติดต่อไกด์ วางแผนการเที่ยวเองทั้งหมด ทำเองทั้งหมดทุกขั้นตอนเลย แถมมาประเดิมก็เล่นท่ายากเลย ไปซะไกลเลย …

Jiuzhaigou On The Left | จิ่วไจ้โกว ด้านซ้าย

ต่อมาจาก Jiuzhaigou|จิ่วไจ้โกว เที่ยวยังไงดี มีอะไรให้ดู อันนี้จะว่าด้วยสถานที่เที่ยวต่างๆด้านซ้าย ด้านซ้าย (Ze Cha Wa Valley) การจะไปเที่ยวทะเลสาบด้านซ้ายนี้จะต้องนั่งรถไปไกลมากกก กว่าจะถึง (18 กม.) ฉะนั้นถ้าจะไป เราจะแนะนำให้ไปเป็นที่แรกหรือที่สุดท้ายของวันไปเลย แล้วใช้เวลาตรงนั้นไป การไปตอนกลางวันบ่ายๆ เป็นอะไรที่แดดย้อนแสงมาก ยัดแฟลชลงไปให้หน้าสว่างกันจนแสบตาเลยทีเดียว ถ้าเรานั่งรถมาถึง ที่แรกที่เราจะได้ลงไปดูคือ Long Lake Long Lake Altitude 3,100m, length 5km, width 600m, area 93,000 sq.m. เป็นทะเลสาบอยู่สูงที่สุด มันใหญ่แบบสุดลูกหูลูกตามาก ที่ Long Lake ลงรถปุ๊ป ก้าวอีกสามสิบก้าว เราก็จะถึงเลย ตรงนี้ไม่มีที่ให้เดินมากนัก หรือมีแต่ไม่ค่อยมีคนเดินไม่รู้ เราเห็นทุกคนก็วนๆอยู่ตรงนั้นแหละ อย่าลืมถ่ายรูปที่ Long Lake ให้พอใจนะ เพราะรถจะไม่ย้อนมาส่ง ถ้าอยากมา ไม่เดินย้อนมาเอง (ซึ่งเหนื่อย) ก็ต้องลงไปที่ศูนย์นักท่องเที่ยวแล้วนั่งย้อนมาใหม่นะ การจะไปจุดต่อไป Five …

Namaste! Nepal

รวมระยะเวลาการเดินแบบไม่หนักไม่เบาเกินไปอยู่ประมาณ 9 วัน วิวสวยๆมีให้เห็นตลอดทาง วิวเหนื่อยๆก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ทริปนี้เป็นการเดินเทรคยาวๆครั้งแรกเลยก็ว่าได้ นอกจากการเตรียมตัวแล้ว เรายังได้เรียนรู้อะไรมากมายระหว่างการเดินทางในหลายๆรูปแบบ ซึ่งหลายๆเรื่องในทริปนี้จะเป็นหนึ่งในเรื่องที่จะไม่มีวันลืมเลย…

อาหารบนทางเท้า เสน่ห์กรุงเทพที่กำลังจะหายไป?

ช่วงที่ผ่านมาได้อ่านข่าวเกี่ยวกับการขอคืนพื้นที่ทางเท้าของกรุงเทพ ห้ามขายอาหารบนทางเท้า (ซึ่งจริงๆ พื้นที่ส่วนใหญ่ก็ขายไม่ได้อะนะ ยกเว้นจุดผ่อนปรนบางอัน) แล้วสื่อก็ตีข่าวใหญ่เลย ว่ากรุงเทพเพิ่งได้เป็นสวรรค์ของอาหารริมถนน ก็ไม่แน่ใจว่าหลักเกณฑ์ที่จะได้มานี่ต้องเน้นขายบนถนนหรือป่าว ซึ่งที่อื่นไม่ให้ขายไง แต่เรื่องความอร่อยก็ไม่เถียง เราว่าอร่อยจริง (ไม่ได้อวย) พอมานั่งคิดๆดู เอาจริงๆแล้วมันก็อาจจะทำลายเสน่ห์ของกรุงเทพไปจริงๆนั่นแหละ บ้านเมืองเรียบร้อย สะอาดขึ้น ส่วนใหญ่เค้าก็มีกัน แต่แบบรกรุงรัง วางของขายบนทางเท้าไม่ค่อยมี สำหรับนักท่องเที่ยวก็คงเป็นเสน่ห์อย่างนึงแหละ มาทั้งทีก็อยากเห็นอะไรแปลกใหม่ที่ที่บ้านไม่มี (เหมือนคนไทยเวลาไปเจอบ้านเมืองที่สะอาดเรียบร้อยเวลาไปต่างประเทศนั่นละ) ได้อ่านกระทู้นึงเรื่องผังเมือง เลยทำให้คิดว่าจริงๆแล้วความวิบัติของร้านบนทางเท้าอาจจะมาจากผังเมืองกรุงเทพก็ได้นะ เค้าว่าในต่างประเทศ การทำผังเมืองเป็นบล็อก จะช่วยเรื่องรถติด และทำให้ดูปลอดภัยที่จะเดินเพราะมันทั่วถึงกันง่าย ร้านรวงริมทางก็เปิดกันเพราะคนเดิน แต่ของไทย พี่เล่นตัดเป็นแนวยาว ทำให้บางช่วงที่คนไม่แน่นก็โหวงไปเลย ช่วงที่คนเดินก็อัดแน่นร้านรวงริมทางก็ขายได้ คนเลยอยากมาขายจนตั้งล้นออกมาบนทางเท้า แล้วก็อีรุงตุงนังกันมาจนวันนี้ละมั้ง แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า คนจัดอันดับ นักท่องเที่ยว นั้นมาแล้วก็ไป ไม่ต้องมาทนอยู่กับความเบียดเสียดบนทางเท้า จนต้องลงไปเดินบนนถนน ความสกปรกของทางเท้าจากขยะอาหาร เสื้อผ้า ของขาย ไหนจะน้ำเสียที่เททิ้งลงไปอีก คือมันอาจจะเป็นเสน่ห์ก็จริง แต่คนกรุงเทพทุกข์ทนโคตร นอกจากจะต้องเบียดกับร้านบนทางเท้าแล้ว ยังต้องเบียดกับมอเตอร์ไซต์บนทางเท้าอีกด้วย สุดท้ายทำไงเดินถนน เบียดกับรถสิจ้ะ ไม่นับว่าแม่ค้าริมถนนพวกนี้โคตรเอาเปรียบแม่ค้าที่เช่าที่อย่างถูกต้องขนาดไหนนะ ค่าเช่าฟรี(จ่ายส่วยไม่นับละกันเนอะ) ค่าทำความสะอาดไม่ต้อง โยนลงพื้น …