Ladies of the Stage ก็ไม่ได้ห้ามพลาดอะไรขนาดนั้น

Ladies of The stage ละครเวทีรีเมค(?) จากรัชดาลัย (อีกแล้ว)

เราซื้อบัตรไปดูแบบไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไหร่ (ถ้าคิดอาจจะไม่ไปดูมั้ง) ซื้อแบบไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลย รู้คร่าวๆแค่ว่าเป็นการเอาละครเวทีสามเรื่องมาเล่นแบบย่อๆ มีแต่เรื่องดังๆ บัลลงก์เมฆ ข้างหลังภาพ ทวิภพ ส่วนใครเล่นยังไง โปรดักชั่นอะไรไม่ได้หาข้อมูลเลย ก็เลยไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมาก

โปรดักชั่น ฉาก แสงสี เทคนิคการนำเสนอ

ถือว่า ธรรมดามากกกกก ถึงมากที่สุด ฉากเน้นจอแอลซีดีมาเป็นฉากหลัง และที่ไม่เข้าใจคือฉากแอลซีดีมีสามอัน แต่จัดวางให้เปิดช่องตรงกลางตลอด คือเข้าใจนะว่าเอาไว้ให้ตัวละครเดินไปมา แต่มันน่าจะเล่นระดับกัน แล้วเอาฉากปิดต่อกันให้เป็นฉากหลังเนียนๆไปดีกว่า ฉากลอยมีบ้างเล็กน้อย ส่วนมากมาในรูปเสาโครงบ้าง ก้อนหินบ้าง สะพานบ้าง เตียงบ้าง

เอาว่าถ้านึกไม่ออกว่าโปรดักชั่นนี้ประมาณไหน ก็ให้นึกว่าคล้ายๆเนื้อคุ่ 11 ฉากนั่นแหละ แต่แค่เพิ่มฉากหลังด้วยแอลซีดีขึ้นมา และฉากลอยๆทำดีกว่าหน่อยนึง

เทคนิคการนำเสนอต่างๆถือว่าธรรมดามาก เคยเล่นมาหมดแล้วไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ว้าวเลยสักนิด บางจุดนี่ก็ใช้คำว่าลวกก็ได้ เช่นพายเรือเสร็จ เดินวนรอบสะพาน ปิดดรายไอซ์ คือขึ้นฝั่งแล้ว ฉากองค์ประกอบอื่นไม่ได้เปลี่ยนเท่าไหร่ มโนตามเอาเองนาจา

ไม่มีอะไรจะชมเป็นพิเศษ พอๆกับไม่มีอะไรจะติเป็นพิเศษ คือมันไม่ได้แย่แบบทนไม่ได้นะ มันก็พอดูได้ ก็ยังมีการลงทุนบ้าง แต่ก็แค่ดูรู้ว่าไม่ได้ตั้งใจลงทุนมากเท่าละเครเวทีเรื่องยาวเรื่องใหญ่เท่านั้นแหละ แต่รับไม่ได้สุด คือฉากเป็นรถไฟแล้วเอาแบคกราวน์เป็นภูเขาไฟฟูจิ โอยยยยย

การเรียบเรียงและนำเสนอเพลงและดนตรี

ลำดับการนำเสนอถือว่าทำได้ดีมาก คงคิดมาแล้ว ทำให้ประสบการณ์การดูเรื่องนี้อยู่ในเทรนด์ขาขึ้นตลอดทั้งเรื่อง จากบัลลังก์เมฆ ข้างหลังภาพ ไล่จนไปปิดที่ทวิภพ ทำให้ความพอใจที่ได้ดูไต่ไปถึงระดับที่น่าพอใจได้เลย ดูจบไปจนถึงทวิภพก็เลยพลอยอนุโลมให้สองเรื่องแรกไปด้วย

เพลงและดนตรี คือของเดิมล้วนๆ ไม่มีอะไรใหม่ ใหม่แค่นักร้อง ให้มาลุ้นเอา

เนื้อเรื่อง บท ตัวละคร

บัลลังก์เมฆ

เป็นเรื่องที่บทเยอะมาก ตัวละครเยอะมาก เนื้อเรื่องเยอะ จนต้องตัดมาเล่า มาปูเรื่องด้วยวิธีการบอกเล่าผ่านเกื้อหลายฉากมาก รวมถึงปูมหลัง หรือพัฒนาการของตัวละครแต่ละตัวยังต้องบอกเล่ารวบๆเอา

การเลือกเรื่องนี้ตัดมาเล่นในหนึ่งชั่วโมงนี่คือความพังอย่างที่สุด เรายังไม่ทันอินกับอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุกข์ของตัวละครไหนเลย คือแว้บมาแว้บไป โผล่มาคนละสองสามแว้บ อ้าวตายซะละ อ้าวกลับมาบ้านแล้ว อ้าวจบแล้ว สินจัย ก็สินจัยเถอะ ดึงให้คนอินไม่ไหวหรอก

บทกระท่อนกระแท่นมาก มาเป็นท่อนๆมาก แต่เพลงดังๆของเรื่องนี่มาครบนะ ขนาดปรก ที่เป็นคนไม่สำคัญยังมีได้ร้องโชว์เลย (แต่ไม่มีรูปบนโปสเตอร์นะ ดูจนจบยังไม่รุ้ว่าใครเล่นเลย คนไม่สำคัญของจริง…วาสุเทพยังมีรูปเลย)

การเกลี่ยน้ำหนักให้แต่ละตัวละครทำได้ดีนะ ถ้าเทียบกับเวลาที่มีและเพลงที่ต้องร้อง คือดูจบก็รู้นะว่าพี่น้องแต่ละคน ชะตากรรมเป็นอย่างไรบ้าง ไม่มีจังหวะให้ปานรุ้งโชว์ของเท่าไหร่ แค่เกลี่ยเวลาให้ลูกๆก็จะครบชั่วโมงแล้ว

สรุปคือเป็นบัลลังก์เมฆเวอร์ชั่นรวบรัดตัดตอนมาก ถ้าจะอินให้บิ๊วตัวเองไปล่วงหน้าก่อนเลยอย่าไปหวังจากการดูหนึ่งชั่วโมงนี้

ข้างหลังภาพ

เรื่องรักวุ่นวายที่ญี่ปุ่น ด้วยความที่บทมันไม่มีอะไรเยอะ แค่ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น ลัลล้าๆไป กลับมาไทย คุณหญิงป่วย ตาย คือตัวบทมันไม่ได้มีอะไรเยอะมาก จะตัดๆไปก็ไม่รู้สึกสะดุด ที่คัดเอามาก็เพลินดี นั่งดูคุณหญิงอ่อยเด็กไป เที่ยวลัลล้ากันในญี่ปุ่นไป ฟังเพลงเพลินๆ คือตัวละครมีแค่สองตัว ไม่ต้องเกลี่ยบทมาก (อะ บวก นวลให้อีกคนนึงเป็นสามตัวละครในเรื่อง)

ความยากมันจึงมาอยู่ที่การทำให้เที่ยวให้ดูเพลินยังไง ก็ขุดเอาเทคนิคนู้นนี้มาใส่ แต่มันก็ธรรมดาๆไม่ได้ว้าวมาก ก็เพลินๆไปแบบไม่สะดุดมากนัก หรือจะทำยังไงให้ร้องเพลงให้ฟังเพลินๆนี่แหละ ก็ฟังแบบลุ้นๆไป ไม่เพลินเท่าไหร่ แต่ช่วงท้ายๆของเรื่อง ที่ใช้พลังการแสดงเป็นหลักแหม่มก็ทำให้อินได้อยู่ ก็จัดเป็นกราฟขาขึ้นล่ะ แกงส้มร้องได้ดีเลยทีเดียว

ก็พอจะอินได้อยู่เบาๆ แต่อย่าไปหวังจะอินมาก น้ำตาท่วม สงสารนะ คือแรงส่งมันยังไม่ถึงอะนะ แต่ถ้าอินง่ายก็อาจจะอินน่ะแหละ

นัท มีเรีย ทวิภพ ladies of the stage

ทวิภพ

จัดว่าตัดมาได้ดี มีความต่อเนื่อง ดูแล้วไม่สะดุด เอาประเด็นต่างๆมาได้หมด พอทำออกมามันไม่หนัก ไม่เบาเกินไป ลงตัวกลมกล่อมมาก แถมเอาเพลงมาได้ครบด้วย อาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้เราเคยดูตอนมันเปิดแสดงเต็มเรื่องด้วยก็ได้ บางอย่างก็ยังจำได้อยู่ ยังต่อเรื่องได้

คุณหลวง กับแม่มณี นั้นคือแคสเดิมมาจากสมัยก่อน แล้วเป็นแคสที่ดีด้วย ไม่ต้องมาลุ้นเรื่องร้อง เรื่องแสดงมาก ทั้งกบและนัททำมาได้ตามมาตรฐานทั้งสองด้าน นั่งดูไปเพลินๆเลย เหมือนนั่งนึกแฟลชแบล็กไปเรื่อยๆเลย กบมาแทนโดมได้เป็นอย่างดี ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนมาซ่อมส่วนที่ขาดหายไปในสมัยที่โดมเล่นล่ะนะ (แต่อยากดูแพทด้วย เสียดาย)

สรุปก็อินนะ แต่ชีวิตมันไม่ได้รันทด ร้องไห้อะไรขนาดนั้น ส่วนที่ควรจะรันทดแบบตอนต้องจากแม่ ก็ตัดฉับออกไป ใช้การเล่าเรื่องแทน ส่วนใหญ่เลยมีแต่พาทลัลล้า ร้องเพลงจีบกัน จากท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็มาท่องเที่ยวรัตนโกสินทร์แทน

โดยรวมๆด้วยความที่มันมีสามเรื่องต่อกัน ขนาดตัดแล้วตัดอีกรวมทุกเรื่องละครยังยาวสามชั่วโมงกว่าเลย ซึ่งจำนวนเรื่องมันเยอะเกินไปพอตัดแล้วจับยัดนี่ก็กร่อยไปเลย ดูๆไปแล้วเป็นเหมือนละครเวทีที่เขียนจากเพลงที่จะเอามาใช้ก่อน แล้วค่อยมาเลือกฉากที่จะเล่นเอา (บัลลังก์เมฆนี่ชัดมาก)

ลายเซ็นอย่างฉากหมู่มวลก็มีให้เห็นเกลือนกลาดเต็มไปหมด(บางทียังไม่เข้าใจว่าใส่มาทำไม แล้วไปไล่ตัดส่วนอื่นๆเอาเนี่ยนะ) รวมถึงฉากร้องประสานเสียงที่ฟังไม่รุ้เรื่องเหมือนเดิมก็ยังมาเสมอ แต่ดีหน่อยที่ตอนนี้มีจอซับอยู่ข้างๆ ก็พอช่วยให้รู้เรื่องได้ตอนร้องโต้ตอบประสานงากัน

นักแสดง

วนมากกกก ส่วนใหญ่ก็แคสต์เดิม วนไปทุกเรื่อง สลับบทกันไป ยกเว้นนักแสดงนำหญิง

สินจัย มาตามมาตรฐาน

แหม่ม คัทลียา สวยนะ แต่ตอนร้องเพลงเราลุ้นมากกก ถึงมากที่สุด พอเอาตัวรอดมาได้แบบไม่บาดเจ็บมาก และยังดีมีแกงส้มมาช่วยลาก ช่วยดึงไว้ พลังทางการแสดงของแหม่มไม่แย่นะ อาจจะไม่พุ่ง ไม่ทำลายล้างมาก แต่ก็ไม่แย่ ก็พอดีๆกับบทคุณหญิงกีรติ ลัลล้าไปได้ ดูเอาเพลินๆ ไม่คิดอะไรมากก็ได้อยู่ แต่ถ้าคิดว่านี่เป็นละครเพลงก็อาจจะกร่อยๆ เพราะแหม่มก็ไม่ได้เรียกว่าร้องเพราะอะนะ อ้อ ฉากเปิดตัวที่ใส่ชุดลายจุดสวยมาก

นัท มีเรีย บทเดิม มาตามมาตรฐาน และขาวมาก จบ

กบ ทรงสิทธิ์ ไม่รู้จะเบื่อไหม เล่นบทเดิม ซ้ำไปซ้ำมา เป็นทั้งเกื้อ ทั้งคนเล่าเรื่องในบัลลงก์เมฆ และวนมาเป็นคุณหลวงต่อ ก็มาตามมาตรฐานเช่นเดิม

แกงส้ม ร้องได้ดีนะ แสดงได้ดีด้วย เล่นดีเลยทีเดียว ไม่มีอะไรไม่ชอบ อ้ออ ทรงผม หัวเกรียนเชียว เปิดมาตอนแรกตกใจ นี่ต้องเข้าถึงบทบาทขนาดนี้เลยหรอ

อาร์ มาตามมาตรฐาน และดูมีเสน่ห์มากขึ้นเรื่อยๆนะ เราว่าอาร์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่ได้ดู

ปรก (นี่คือใคร?) ก็เล่นได้ไม่แย่นะ แต่ไม่ได้ประทับใจเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าจะเล่นออกมาให้ดูน่าสงสารหรือเปล่า แต่เราดูแล้ว เล่นออกมาได้เป็นคนอ่อนแอมาก คือไม่อินนะ แต่เรื่องร้องพอกลบๆได้ แต่เพราะบทไม่เยอะก็มองๆข้ามไป เพราะตัวบัลลังก์เมฆเองก็พังพินาศอยู่แล้ว

ณัฐ เพิ่งเคยดูเป็นครั้งแรก การแสดงเฉยๆนะ อาจจะเพราะมาเล่นเป็นปกรณ์ ที่ต้องดูอ้อนๆง้องแง้งๆ แล้วบทกับการให้เหตุผลของปกรณ์ก็พังมากในตัวเองอยู่แล้ว การมารับบทนี้เล่นแล้วเราไม่รู้สึกว่าพังหรือน่ารำคาญมากก็ถือว่าณัฐทำได้ดี ร้องเพลงก็ดี และหุ่นดีมาก

แก้ม เราชอบแก้มนะ เป็นนักร้องที่เราเอาใจช่วยมาตลอด คอนเสริ์ตยังไปไฟว์กดบัตรไปดูเลย แต่งานแสดงอาจจะไม่เหมาะกับแก้ม หรือว่าอาจจะเหมาะมากก็ไม่รู้ เพราะแก้มเล่นบทไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นปานวาด หรือม้วน เล่นออกมายังไงก็ยังเป็นแก้มอยู่ เป็นปานวาดแบบแก้มเลย ม้วนยังมีความเป็นแก้มน้อยหน่อย แต่ก็ยังมีมือจังหวะ ทุกอย่างมันคือแก้ม มันไม่ใช่ปานวาด ไม่ใช่ม้วน

เราไม่รู้ว่านักแสดงที่ดี คือต้องเล่นให้คนอินกับตัวละครนั้น หรือต้องเอาความเป้นตัวของตัวเองใส่ลงไป แต่เราค่อนข้างชอบนิยามแบบแรกมากกว่า เพราะเรามาดูคนแสดงเป็นตัวละคร

อีกอย่าง แก้มเป็นคนที่มีความสตรองมาก มั่นมาก ทั้งในน้ำเสียง ท่าทาง บุคลิก การมาเล่นเป็นปานวาด ช่วงที่กลับมาเกาะรั้วบ้าน แล้วร้องสำนึกผิด เราไม่รุ้สึกสงสาร เห็นใจคนสำนึกผิดอย่างที่ควรจะเป็นเลย แก้มน่าจะร้องให้สตรองน้อยกว่านี้ ให้มันดูทุกข์ ทรมาน ลำบากกว่านี้หน่อย อาจจะต้องใช้ท่าทางเข้าช่วย ไปร้องเกาะขอบประตูบ้านอะไรอย่างนี้ คือเราไม่รุ้ว่ามันจะต้องใช้เทคนิคการร้องอลังการมากขนาดนี้หรือเปล่า หรือร้องธรรมดาแล้วเอาพลังงานการแสดงพุ่งมาที่คนดูแทน แต่อย่างที่บอกตอนแรก ว่านี่เป็นแก้มที่มาเล่นเป็นปานวาด รวมๆทั้งหมดมันก็เป็นแก้มที่มีความสตรองอยู่ดี ร้องไม่สตรอง ไม่มั่น ก็ไม่ใช่แก้ม

กฤษ เดอะวอยซ์ มาทุกเรื่อง เป็นวาสุเทพมั่ง เป็นท่านเจ้าคุณมั่ง เป็นขุนมั่ง คือมาอย่างละนิดละหน่อยมาก น้อยจนไม่ทันรู้สึกว่าดีหรือแย่เลย แต่ช่วงที่ออกมาเยอะๆในบัลลังก์เมฆถือว่าทำได้ดี ที่เหลือนับว่าเป็น Narrator ไม่นับ

รัดเกล้า การร้องนี่ผ่านฉลุยหายห่วง การแสดงก็ฉลุยเช่นกัน แถมมีบทมาทุกเรื่อง แล้วบทมาเต็มด้วย ทั้งเป็นกติยาในบัลลังก์เมฆ แม้จะมีบทให้โชว์น้อยไปหน่อย แต่ออกมาแต่ละทีก็ทำให้จำล่ะนะ เป็นนวล ต้นห้องคุณหญิง ก็ทำได้ดีมาก แม้จะออกมาสั้นๆไม่กี่ฉาก แต่ทำได้ดี การร้องนี่ฆ่าคุณหญิงไปเลย รวมถึงเป็นแม่ของคุณหลวงด้วยเช่นกัน คือ เอารัดเกล้า มาเป็นแม่กบ ทรงสิทธิ์อะนะ เล่นแล้วเราไม่รู้สึกขัดเขินก็ถือว่าทำได้ดีมาก เรียกว่าน่าจะเป็น Ladies Of The Stage ตัวจริง

ระดับความน่าดู คือ ว่างเงินเหลือก็ไป ไม่ว่างไม่มีเงินข้ามก็ได้

สรุปคือ ถ้าว่าง เงินเหลือ ไปดูก็ได้ มันไม่ได้แย่มาก คือมันมีดีแย่ปนกันไป แต่ก็จะค่อยๆไต่มาปิดที่ระดับมาตรฐานของรัชดาลัยได้ในที่สุด แต่ถ้าไม่ว่าง ไม่มีเงินเหลือ ข้ามก็ได้ ไม่ได้พลาดอะไรไปเท่าไหร่หรอก คือเค้าก็ไม่ได้ทำแบบใส่ใจมากอะนะ เราจะไปดูไปใส่เงินใส่เวลาให้ก็ลองชั่งน้ำหนักดู