Namaste! Nepal

ปกติแล้วเราไม่ค่อยไปประเทศไหนซ้ำ ถ้าเคยไปมาแล้ว แต่เนปาลก็ให้เป็นข้อยกเว้นนึง เพราะรอบก่อนเราจำอะไรไม่ค่อยได้มาก จำได้แค่ แม่เปิดประตูมาบอกว่าจับสลากวันหยุดได้ เราจะไปกาฐมัณฑุกันพรุ่งนี้ เก็บกระเป๋าเลย! วีซ่าขอที่โน่น กับเราโชคดีได้เจอกุมารี ไปดูโรงงานทอผ้าขนแพะ ชมวิวเทือกเขาหิมาลัย เพิ่งรู้ว่าอาหารแขกก็ใช้มือกิน อาหารประเภทผักราคาแพงกว่าเนื้อ และอุบัติเหตุรถชนทำรถติดยาวเหยียดเป็นชั่วโมง ทำให้มีโอกาสกลับมาเนปาลครั้งที่สองในรอบห่างกันเกือบสิบปี…รอบนี้ได้ความทรงจำกลับไปแบบตราตรึงเลยทีเดียว

คราวนี้เป้าหมายหลักๆคือการมาเดินเทรคกิ้ง ไปที่ ABC (Annapurna Base Camp) เป็นเส้นทางการเดินที่ดังในหมู่คนไทยมาสักพักละ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปก็คือ เมษายน หรือตุลาคม อากาศดีและเป็นช่วงหยุดยาวของไทย ให้เตรียมตัวเจอไทยทาวน์ได้เลย

รวมระยะเวลาการเดินแบบไม่หนักไม่เบาเกินไปอยู่ประมาณ 9 วัน วิวสวยๆมีให้เห็นตลอดทาง วิวเหนื่อยๆก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ทริปนี้เป็นการเดินเทรคยาวๆครั้งแรกเลยก็ว่าได้ นอกจากการเตรียมตัวแล้ว เรายังได้เรียนรู้อะไรมากมายระหว่างการเดินทางในหลายๆรูปแบบ ซึ่งหลายๆเรื่องในทริปนี้จะเป็นหนึ่งในเรื่องที่จะไม่มีวันลืมเลย…

เนปาลเป็นประเทศที่เรียกว่า Timeless มากกกก คือในความรู้สึกเราไม่ได้รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงไปเลย หลายอย่างเกือบเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือถนนลาดยาง ช้อนหาง่ายขึ้นและรถเยอะมากขึ้น (ไวไฟไม่นับ เพราะติดๆดับๆเป็นส่วนใหญ่ และดับเป็นส่วนมาก)

ถ้าอยากได้ประสบการณ์หวาดเสียวให้ลองนั่งรถกลับจากโพคราดู แล้วจะค้นพบว่า แซงทางโค้ง ปาดไปปาดมา ถนนแค่สองเลนไต่เขา แต่พี่เล่นเบียดกันไปเบียดกันมา เบียดทางโค้ง อย่างนี้ก็ทำได้หรอ ของแถมคือรถติดจากอุบัติเหตุ การก่อสร้าง ขุดทราย สูดดมแป้งเนปาลีวนไปขร่ะ ของแถมคือเมืองกาฐมัณฑุนั้นเป็นเมืองที่ฝุ่นเยอะมากถึงมากที่สุด แต่ประสบการณ์หวาดเสียวถึงใจ ให้นั่งรถลงมา nayapul ตอนจบทริปลุ้นทุกโค้ง โค้งแคบๆ รั้วไม่มี เพิ่มเติมคือรถสวน และป้าวิ่งจับแพะบนสะพาน

เป็นทริปที่เราเดินแบบไม่เหนื่อยทรมานมากนัก เพราะมีการออกกำลังกายล่วงหน้าไปนิดหน่อย คือไม่อยู่ในระดับฟิตมาก แต่ก็ไม่ใช่ไม่เตรียมตัวอะไรเลย เรียกว่าออกกำลังกายแบบเบสิคๆไป ก็เดินถึงพอดีๆ ไม่มืดมาก ทำให้แต่ละวันเรามีเวลาเหลือสำหรับการพักผ่อนที่ก็เพียงพอล่ะนะ ถ้าวิ่งขยายปอดไปด้วยน่าจะเดินได้เร็วกว่านี้ ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับทริคการออกกำลังกายด้วย ฮี่ๆ

เป็นการเที่ยวแบบที่เราไม่คุ้นเคยมากนัก เพราะปกติจะชอบถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยไปในที่ต่างๆตามตารางเวลา แต่ทริปนี้ต่างออกไป ตารางเวลาขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ชื่นชมนานก็ไปถึงช้า เพราะย้ายที่นอนทุกคืนแบบเดินเท้าไปเรื่อยๆ มันเลยเป็นเหมือนการจัดการเป้าหมายความสำเร็จในแต่ละวันไป มากกว่าจะมาชื่นชมทีละจุด หรือสิ่งรอบๆ แบบที่เคยทำมา คือก็เป็นการเที่ยวแบบที่ไม่เคยไปละนะ โดยรวมๆก็จัดว่าเป็นทริปที่มีเสน่ห์ในตัวของมันเองตลอดการเดิน

เป็นอีกทริปที่เราเสียใจกับความขี้เกียจของตัวเองอีกครั้ง เพราะเป้าหมายคือการดูทางช้างเผือก แต่ก็ดันยุ่งเกินกว่าจะหาข้อมูลไป และจากการสอบถามก็มีสองกระแสว่าช้างจะมาตอนตีหนึ่ง ไม่ก็ตอนตีสี่ เราตื่นฝ่าความหนาวมาดูตอนตีหนึ่ง ออกไปเจอพระจันทร์สว่างโร่ แต่ดันนอนกดนาฬิกาไปเรื่อยๆตอนตีสี่…ใช่ ทางช้างเผือกมาตอนตีสี่ ที่ไม่ได้ออกมาดูนี่แหละ

ห้องน้ำที่เนปาลนั้น…สามารถไปฟัดเหวี่ยงกับห้องน้ำประเทศจีนได้สบายๆเลย ยิ่งห้องน้ำบนเชาในหมู่บ้านเล็กๆนี่บอกเลยว่าอยู่ในระดับสูสี ห้องน้ำระหว่างทางเราให้เสมอ…ในระดับที่กลิ่นแรงมาถึงข้างนอกจนไม่ต้องเดินเข้าไปพอๆกันเลย

…รวมๆเรียกว่าจัดอยู่ในหมวดอยากลืมก็ลืมไม่ลงละกัน

DSC05796.JPG
รูปดาวตอนกลางคืนรูปเดียวที่ได้ ไม่สยเท่าไหร่แต่ก็ภูมิใจที่ตื่นมา