Jiuzhaigou|จิ่วไจ้โกว เที่ยวยังไงดี มีอะไรให้ดู

จิ่วไจ้โกว เที่ยวยังไงดี มีอะไรให้ดู

ก่อนจะเข้าไปเที่ยวในจิ่วไจ้โกว มีเรื่องที่เราควรรู้หลักๆ 2 อย่างในการวางแผนการเดินอย่างสวยงามในจิ่วไจ้โกว

  1. รถที่วิ่งในอุทยาน

ตอนที่เราหาข้อมูล อ่านไม่ค่อยเจอใครเขียนถึงเท่าไหร่ ส่วนมากจะบอกว่าไปไหนบ้างๆ (คือคนอาจจะรู้กันอยู่แล้วก็ได้ เราไม่รู้เอง) แต่รถในจิ่วไจ้โกวนั้นมีบทบาทสำคัญมาก ในการเที่ยวของเราข้างใน เพราะอุทยานใหญ่มากจริงๆ การเดินย้อนไปย้อนมาไม่ใช่เรื่องสนุก

รถในอุทยานนั้นจะมีแบบรถใหญ่ อันนี้สำหรับคนทั่วไป และรถเล็กสำหรับหมู่คณะที่จองมา (เท่าที่ได้ยินมาคือไม่มีค่าบริการนะ ถ้าจะเหมารถ แต่ต้องมีจำนวนคนระดับนึง และคนพูดจีนได้ไปติดต่อ แต่จะกี่วันล่วงหน้ายังไงนี่ไม่รู้นะ เราไปแบบทั่วไป)

มาถึงเรื่องสำคัญคือ รถในอุทยานจะวิ่งไปจนสุด แล้วค่อยจอดรับคนเพื่อ ลงไป เท่านั้น หมายถึง ถ้าเราลงตรงจุดไหนแล้ว เราจะรอรถตรงนั้นเพื่อย้อนขึ้นไปจุดที่ผ่านมาไม่ได้ ต่อไปลงป้ายหน้าอย่างเดียวเท่านั้น จุดเดียวที่จะรับคนขึ้นเพื่อย้อนไปยังจุดเที่ยวนั้นมีแค่ที่ศูนย์นักท่างเที่ยวเท่านั้น ฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดคือนั่งรถไล่เก็บมาทีละทะเลสาบ จะประหยัดเวลาการนั่งรถย้อนไปได้ดีมาก

รถมาถี่มาก ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลารอรถเลย ตั๋วรถเป็นแบบซื้อครั้งเดียวใช้ได้ทั้งวัน ไม่ต้องกังวลไปว่าขึ้นบ่อยแล้วจะเปลืองตัง อาจจะรู้สึกว่าขึ้นน้อยไปไม่คุ้มก็ได้

*เวลานั่งรถแล้วอยากเห็นแจ่มๆชัดๆ ขาไป ถ้าอยากดูทะเลสาบด้านล่าง ให้เลือกนั่งฝั่งซ้าย ถ้าอยากดูทะเลสาบด้านขวา ให้นั่งฝั่งขวา ถ้าอยากดูทะเลสาบด้านซ้าย ให้เลือกนั่งฝั่งซ้าย ขากลับก็สลับด้านกัน แต่เอาจริงๆแค่ขึ้นให้ทัน ให้ได้นั่งก็เหนื่อยแล้ว และนั่งอีกฝั่งก็ยังเห็นอยู่ดี แค่อาจจะไม่ชัดและหัวคนเยอะหน่อย

*รถคันไหนไปซ้ายขวา อันนี้ก็เดินไปรอๆตามป้ายได้เลย ถ้าคนเริ่มเละเทะมารอบนถนนก็ลองๆชี้แผนที่แล้วตามๆเค้าไปก็ได้

  1. ทะเลสาบในจิ่วไจ้โกว

จิ่วไจ้โกวแบ่งที่เที่ยวได้เป็น สามส่วน ใหญ่ๆ คือ บริเวณ Shu Zheng Valley, Ze Cha Wa Valley, Ri Ze Valley ถ้าภาษาบ้านๆ ให้นึกถึงตัว Y เข้าไว้ เรียกให้เข้าใจง่ายๆ คือ ด้านซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง ซึ่งการจะไปแต่ละด้านนั้น ต้องมาเริ่มที่ ตรงจุดตัดตัว Y นะ จะเป็นทางแยกไปยังที่เที่ยวของด้านต่างๆ และแต่ละด้านนั้น มีทะเลสาบเด่นๆให้ดูเยอะน้อยแตกต่างกันไป ฉะนั้น ต้องบริหารเวลาให้ดีๆ จะได้ดูได้ครบๆ เพราะค่าเข้านั้นจัดว่ามหาโหดเลยทีเดียว

jiuzhaigou.gif

ถ้าให้เราแนะนำว่าควรวางแผนเที่ยวยังไง เราจะบอกแบบนี้

  • ให้เข้าสองวัน ถ้าเป็นไปได้ แล้วเน้นการเดินเป็นหลัก นั่งรถบ้าง แม้อาจจะรู้สึกไม่คุ้มค่าตั๋วรถที่จ่ายไปก็ตาม แต่ให้คิดงี้ว่าแค่นั่งเข้ามาถึงด้านในจากปากทางก็คุ้มแล้ว เซฟเวลาไปเยอะ ยกเว้นขาแรงอยากเดินให้ครบจะเดินก็ได้
  • ตอนเช้าสุดของวันใดวันนึง ให้ไปที่ Five Flower lake ก่อนเลย (ดูอากาศในวันนั้นๆเป็นหลัก อากาศดี รีบชิงไปก่อนเลย) ให้เดินตรงสะพาน และรอบๆ ยังไม่ต้องข้ามไปในสุด เพราะเดี๋ยวต้องเดินผ่านอีกทีอยู่ดี และก็ไปดูวิวมุมสูง แล้วค่อยย้อนไปเก็บด้านขวาตอนบ่ายเลือกไปเลย จะกินข้าวแถวนี้ไปเลย หรือจะไปกินที่อื่นก็ได้ แต่ครึ่งเช้าที่นี่น่าจะเก็บหมดละ
  • หลังกินข้าวเที่ยงก็เริ่มเก็บด้านขวา จะนั่งรถไปจนถึงป่าดึกดำบรรพ์ก็ได้ (ถ้าอยากไปดูให้ครบ) แล้วก็นั่งย้อนลงมาที่ Arrow Bamboo Lake ตอนบ่าย แล้วไล่เดินเก็บ วนรอบ Mirror Lake เดินเลยต่อมาจนถึงจุดบริการนักท่องเที่ยวเลย คิดว่าครึ่งบ่ายถึงเย็นน่าจะเก็บทันหมดนะ
  • แล้วอีกวันก็ไปเก็บด้านล่างและด้านซ้ายไป จะไป Long Lake ตอนเช้า แล้วค่อยมาเดินไล่เก็บด้านล่างก็ได้ น่าจะทันสบายๆ แสงไม่หมดตอนไปถึง Bonsai Shoal ด้วย หรือจะนั่งรถไปลงที่ Bonsai Shoal แล้วเดินย้อนขึ้นมาก็ได้ แล้วค่อยนั่งรถไปต่อที่ Long Lake จะแบบไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับฤกษ์สะดวก

คือที่แนะนำมานี่ ถ้าเรามีโอกาสไปอีกครั้งเราจะทำแบบนี้ แต่ข้อเสียคือ ถ้าอากาศดีวันเดียว เราก็จะได้ดูแค่ด้านเดียว คนก็เลยนิยมจะดูกระจายๆ เร็วๆให้ครบๆตอนที่อากาศดี หรือจะแบ่งเดินแบบที่เราทำก็ได้ เอา Five Flower lake เป็นจุดแบ่งแล้วไปเก็บด้านอื่นต่อแต่อาจจะเสียเวลานั่งรถไปหน่อย ก็อาจจะเก็บไม่ครบต้องมาวนซ้ำอีกทีวันถัดไป แต่อย่างน้อยก็ดูครบตอนอากาศดี

  • แต่ถ้ามีวันเดียว ก็ให้นั่งรถไปลงที่ Five Flower lake ก่อนเลยตอนเช้าสุด แล้วก็นั่งรถมาลงจุดบริการนั่งท่องเที่ยว ไปทาง Long Lake เก็บสองอันให้ครบ แล้วก็ย้อนไปไล่เก็บด้านขวา ข้าม Five Flower lake ไปตอนย้อนลงมาก แล้วก็นั่งไปเก็บด้านล่าง
  • ยกเว้นไม่มีเวลาจริงๆก็นั่งเก็บไล่ลงมา เลือกเอาจะไปด้านซ้ายหรือขวาก่อน แล้วมาเก็บด้านล่างตอนออก อันนี้ง่าย ลงรถตามป้ายแค่นั้นแหละ

ฉะนั้นจากนี้เราจะเขียนถึงแต่ละที่แบบกว้างๆในความรู้สึกไว้ก่อน ลองอ่านดูว่าอยากไปอันไหน ก็ค่อยแพลนไป (ข้อมูลบางอย่างก็กลับมาหาเพิ่มเอาจากเว็บทางการนี่แหละ อยากอ่านประวัติโดยละเอียด สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่เป็นยังไง ก็ขอเชิญทางนี้ >> www.jiuzhai.com/language/english/)