The 100-Year-Old Man Who Climbed Out the Window and Disappeared…..You’re never too old for an ADVENTURE!!

150426 The_Hundred-Year-Old_Man_Who_Climbed_Out_the_Window_and_Disappeared 2

ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกตอนดูหนังเรื่องนี้ คือ เฮ้ยยยย อะไรเนี่ย มันมารวมกันได้ไงเนี่ย เออ เอาที่พี่สบายใจเลย ไปให้สุดให้เต็มที่เลยนะ อย่าได้ถอย (แล้วก็ไม่ถอยจริงๆ ตรูยอม) ….. แต่ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกหลังดูจบ คือ หนังสนุกอ้ะ อยากบอกต่อ อยากให้ดูนะ รีบมาเขียนเชียร์เช่นเดียวกัน ต้องรีบมาเขียนเชียร์เลยทีเดียว(นี่รีบแล้วจริงๆนะ) โอกาสสุดท้ายที่จะได้ดูฟรีแบบไม่ลำบากลำบนและดูฟรีด้วย!! กับเทศกาลหนังสวีเดน ฉายอีกครั้งที่เทศกาลหนังสวีเดน รอบห้าโมง วันอาทิตย์ 26 เมษ ที่CTW ถ้าไปไม่ได้…..ขอเชิญพบกับ

150426 The_Hundred-Year-Old_Man_Who_Climbed_Out_the_Window_and_Disappeared 4

การผจญภัยอันสุดล้ำเหนือจินตนาการ ของAllan Karlsson แห่ง Mahkoping เรื่องราวการผจญภัยของคุณตาอายุร้อยปี! ที่ปีนออกนอกหน้าต่าง และออกเดินทางจากบ้านพักคนชรา ไปครึ่งค่อนโลกจนมาถึงบาหลี อินโดนีเซีย และผองเพื่อนแห่งความบังเอิญที่พบเจอระหว่างทาง ระหว่างหลบหนีจากมาเฟีย พร้อมเงินสดเป็นล้านในกระเป๋าเดินทาง! (เอาเข้าไปสิมารวมกันได้นะ) หนังเล่าเรื่องตัดสลับระหว่างการเดินทางของแกกับเรื่องในอดีตของแกที่สุดติ่งพอๆกับการเดินทางไปจนถึงบาหลีของแกเลย ต่อไปคือสปอยล์แบบเต็มๆล้วนๆ  (หรือจะไปหาหนังสือมาอ่านก็ได้นะ หนังสือเหมือนจะดังอยู่พอสมควร)

———-

Allan Karlsson จัดเป็นหนึ่งในคนอายุยืนที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดคนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะวันเกิดอายุครบหนึ่งร้อยปี พี่.. ไม่สิ ปู่แก เล่นปีนหน้าต่างออกจากบ้านพักคนชราที่แกอาศัยอยู่ บ้านพักคนชราที่แกได้เข้ามาอยู่ เพราะแกระเบิด! หมาป่าที่มากัดแมวแก (เอาสิ เปิดเรื่องมากก็สุดโต่งแล้ว)

หลังจากแกออกจากบ้านพักคนชราแล้ว แกก็ออกเดินมาเรื่อยๆ (ซึ่งไม่น่าจะไกลมาก) มาที่สถานีขนส่ง และแกก็ซื้อตั๋วไปที่ไหนก็ได้เท่าที่เงินในกระเป๋าแกจะอำนวย แม้เมืองนั้นจะแทบไม่มีอะไรก็ตาม ซึ่งมันก็เหมือนการเดินทางธรรมดา จนกระทั่งนักบิดหนุ่มผู้มาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เอากระเป๋ามาฝากแก พร้อมสั่งแกว่าห้ามปล่อบยมือจากกระเป๋านะ แล้วแกจะทำอย่างไรดี ในเมื่อรถี่แกซื้อตั๋วกำลังจะออกแล้ว..แกก็เอากระเป๋าไปด้วยสิ แต่มันจะไม่เป้นเรื่องเลย ถ้าในกระเป๋านั้นไม่ได้บรรจุเงินสดเป็นล้านไว้ในนั้น

นักบิดหนุ่มจึงออกตามล่าปู่Allan ผู้ซึ่งบังเอิญมาเจอลุงที่เฝ้าสถานี(ที่เป็นบ้านไปแล้ว) และทั้งคู่ก็ต่อสู้(?) จนหนุ่มนักบิดสลบ และเอาไปใส่ไว้ในห้องเย็น และลืมปิดเครื่อง จนกระทั่งหนุ่มนักบิดหนาวตาย (เออ เอากะมันสิ) ทีนี้ทั้งคู่จึงต้องกำจัดศพโดยเอาไปใส่ในกล่องคาร์โกที่ท่าเรือ และออกเดินทางไปพร้อมกับเงินก้อนยักษ์ในกระเป๋าไปด้วย

จนทั้งคู่มาพบนักศึกษาคนหนึ่ง (คือศึกษาจริงๆนะ ฮีเล่นเรียนมันจะทุกเรื่องเลย) และก็ขอติดรถไปกับหนุ่มนักศึกษาด้วย จนกระทั่งทั้งสามคนแวะปั๊มน้ำมัน ที่มีประกาศหาคุณปู่ที่หายตัวไป ทั้งคู่เลยเล่าความจริงให้หนุ่มนักศึกษาฟัง และออกเดินทางมาด้วยกันจนน้ำมันกำลังจะหมด จึงแวะไปพักที่บ้านผู้หญิงคนนึง ซึ่งบังเอิญมีแฟนเป็นหนึ่งในแก๊งค์นักบิด จึงทำให้แก๊งค์นักบิดตามมาเจอ และต่อสู้(?)กัน จนอีกหนึ่งนักบิดเสียชีวิตไป ทั้งหมดจึงเอาศพนักบิดใส่รถเพื่อไปเผา

เมื่อเห็นดังนั้น หัวหน้าแก๊งค์นักบิดจึงออกมาตามล่าคุณปู่ด้วยตัวเอง แต่ก็บังเอิญต่อสู้ และเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้หัวหน้าแก๊งค์ความจำเสื่อมชั่วคราว แต่ปู่Allan ก็ขอความช่วยเหลือจากAlec ลูกชายของเพื่อนสมัยเป็นสายลับ(!) ให้พาไปที่บาหลีอย่างบังเอิญ ที่ซึ่งหัวหน้าใหญ่ เจ้าของเงินอยู่ ซึ่งเมื่อหัวหน้าใหญ่เจ้าของเงินเห็นปู่Allan ก็บอกให้ลูกน้องหันมาดู จนเกิดอุบัติเหตุรถชนโครมเสียชีวิต จบ

150426 The_Hundred-Year-Old_Man_Who_Climbed_Out_the_Window_and_Disappeared 1

แล้วปู่แกไปเป็นสายลับได้ยังไงนะ เรื่องมันเกิดมาจากความชอบระเบิดสิ่งของของแก ซึ่งแกบังเอิญไปตั้งระเบิดที่กองหิน ที่บังเอิญพ่อค้าแวะมาจอดเข้าห้องน้ำ จนระเบิดตู้มหัวขาด และนั่นก็ส่งให้กเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลทางจิตเป็นเวลานาน

เมื่อแกออกมาได้ แกก็ไปเจอโรงงานทำปืนใหญ่ระเบิด ด้วยความชอบส่วนตัวของแก แกก็เลยสมัครไปทำ และเจอเพื่อนชาวสเปน (ที่พูดมาก มากกกกกจริงๆ ขนาดออกมาไม่นานดูแล้วยังรำคาญเลย) เพื่อชาวสเปนของแกก็เลยชวนแกไปรบในสงครามกลางเมืองของสเปน โดยพาไปอยู่ฝั่งคณะปฏิวัติ ต่อต้านนายพลฟรังโก

ในสงครามนั้นแกก็ได้ระเบิดสะพานอีกมากมาย จนกระทั่งวันนึงแกพบว่าแกเบื่อแล้ว แกก็เลยเลิกวางระเบิดสะพาน ซึ่งบังเอิญว่าสะพานสุดท้ายที่แกบังเอิญจุดระเบิดไว้ คือสะพานที่นายพลฟรังโก กำลังจะผ่าน นายพลจึงจัดงานเลี้ยงขอบคุณที่ช่วยชีวิตท่านไว้ และให้ปืนเป็นของขวัญแก่Allan กระบอกนึง ซึ่งในที่สุดปืนนั้นก็ถูกเปลี่ยนเป็นWork Permit ให้แกไปทำงานที่อเมริกา

ที่อเมริกา Allan เริ่มจากทำงานก่อสร้าง จนกระทั่งรู้ข่าวเรื่องManhattan Project โครงการพัฒนาระเบิด มีหรือที่แกจะไม่ไปเข้าร่วม แน่นอนว่าไปร่วม และบังเอิญมากกกกก ที่แกเป็นคนคิดช่วยแก้ปัญหาจนโครงการสำเร็จด้วยดี

 150426 The_Hundred-Year-Old_Man_Who_Climbed_Out_the_Window_and_Disappeared 3

จากนั้นแกก็กลับมาสวีเดน ที่ซึ่งแกมีโอกาสพบกับPopov สายลับของรัสเซีย ที่พามุดเรือดำน้ำไปพบกับสตาลิน (เออ เอาเข้าไปสิ) แต่ปู่Allan แกก็ไปพลั้งปากเรื่องสมัยพบกับนายพลฟรังโก จนAllan โดนระเห็จไปอยู่ค่ายกักกัน ที่ซึ่งเค้าได้พบกับไอน์สไตน์!! (น้องชายฝาแฝดที่จับมาผิดตัวน่ะ)

และด้วยความบังเอิญ ทั้งคู่ก็หนีออกจากค่ายกักกันมาได้ แบบบังเอิญสุดชีวิต จนกระทั่งไอน์สไน์ ย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสและ Allanไปเยี่ยม และไปทักสายลับรัสเซียที่ปลอมตัวมา ทำให้CIA มอบหมายงานให้Allan ไปค้นความลับของรัสเซียกลับมา ซึ่งAllan ก็ไปขอความช่วยเหลือจาก Popov และทั้งคู่ก็เลยเอาความลับที่KGB จะทิ้ง ไปทิ้งให้CIAแทน และในทางกลับกัน ความลับที่CIA จะทิ้ง ก็เอามาแลกเปลี่ยนทิ้งให้KGB แทน เออออออ เอาเข้าไปสิ ซึ่งปู่แกทำงานนี้จนแก่เลยทีเดียว

ปล.Alec คือลูกชายของ Popovนั่นเอง

ปล2.ระหว่างนั้นมีตำรวจตามสืบว่ามันมีความสัมพันธ์อะไรไหมระหว่างการหายตัวไปของปู่กับแก๊งค์นักบิด แต่สุดท้ายก็สรุปว่าไม่มีความสัมพันธ์ เพราะนักบิดคนแรกที่เสียชีวิต(ที่เอาใส่คาร์โกไป) นั้นถูกพบบัตรและอนุมานว่าเป็นมือระเบิดกลางเมืองในแอฟริกา ส่วนนักบิดคนที่สอง ที่อยู่ในรถที่จะเอาไปเผา ปรากฎว่ารถโดนขโมย และคนพบศพตอนที่เอารถไปบดเป็นขยะ (เอาเข้าไป ฮ่าๆ)

———-

การถ่ายทำ ฉากอะไรนี่คือดีงามตามมาตรฐานอยู่แล้ว การแสดงนักแสดงก็ลื่นไหล ไม่ดูแล้วขัดเขินหรืออึดอัดอะไรเลย ตรงส่วนนี้ผ่านแบบสบายๆ ตามมาตรฐานหนังทั่่วไป (แบบหนังไทยก็ทำได้)  แต่สิ่งที่ชอบที่สุดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ คือบท

มันเป็นอะไรที่ ทำให้หนังเรื่องนี้สนุกมาก ถึงมากที่สุด ยิ่งเป็นบทแบบ ความบังเอิญมาพบกัน หลายๆอย่างมารวมเป็นเรื่องเดียวกัน หรือนำไปสู่บทสรุปที่แบบคาดไม่ถึง นี่เป็นอะไรที่ชอบโดยส่วนตัวอยู่แล้ว แบบหนังสือเรื่อง 824 ของงามพรรณ จริงๆ นี่เป็นงานของงามพรรณที่เราชอบที่สุดนะ แต่กลับไม่ดังเท่าความสุขของกะทิเลย

ความรู้สึกมันแบบเออ อะไรก็เกิดขึ้นได้แหละ (อยู่ที่เราจินตนาการ) บทของหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่พอเหมาะพอเจาะกันดีมาก คือทุกอย่างมันมีที่มาที่ไปนะ แม้ที่มาที่ไปมันจะไม่มีที่มาไปสักหน่อยก็ตาม ฮ่าๆ คือมันสมเหตุสมผลในแบบของมัน(ซึ่งแบบของมันนี่คือ…สรุปว่า เออ เอาที่พี่สบายใจจะทำเลย เต็มที่ๆ) ไม่ต้องไปนับเรื่องความสมจริงอะไรนะ มันเว่อร์วัง แต่เป็นความเว่อร์บนความเป็นจริง คือมันก็อาจจะมีโอกาสเกิดได้แหละ แต่แบบ 0.000000000000000001% นี่คือส่วนที่ชอบมากที่สุด เพราะทำให้มันตลก และบางทีก็ตลกร้ายแบบหึหึเลยด้วย

รู้สึกชื่นชมเป็นการส่วนตัวกับการทำให้เรื่องที่ดูไม่มีอะไร ไม่มีเหตุผล ให้มันดูมีเหตุผลในตัวของมันเองได้ เราชอบอะไรที่เป็นแบบนี้มากๆ แต่ถ้าคนชอบความสมจริง อาจจะพบว่ามันไม่สนุกเท่าไหร่ในเรื่องของบท แต่ถ้าดูมันเป็นหนังตลก มันก็เป็นหนังตลกที่ตลกมาก

เรทความน่าดู แนะนำเป็นอย่างมาก มีโอกาสรีบดูนะ ถ้าไปดูไม่ทันก็แนะนำให้หามาดู หรือรอเทศกาลหนังยุโรป อาจจะกลับมาฉายอีกก็เป็นได้ ถ้าจะให้แนะนำหนังยุโรป(เท่าที่เคยดูมา) หนังเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในหนังที่เราจะแนะนำให้ไปดูแน่นอน (ถ้าชอบสายดราม่าจัดหนักจะ แนะนำให้ไปดู North Face ของเยอรมัน อันนั้นพีคสุดติ่งมาก)